ได้รู้จักกับสถานที่เที่ยวในหลายๆจังหวัดกันไปแล้วต่อไปเราจะพาคุณไปรู้จักกับจังหวัดไอจิ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเมืองเล็กๆที่มีมนต์เสน่ห์ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักเดินทางได้เป็นอย่างดี และในวันนี้เราจะมาพูดถึงจังหวัดไอจิกับหัวข้อที่ว่า 6 สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดไอจิ ที่สายชิลล์ไม่ควรพลาดในปี 2022! เพราะเราเชื่อว่ายังคงมีอีกหลายสถานที่เที่ยวในประเทศญี่ปุ่นที่น่าสนใจรวมทั้งเมืองเล็กๆแห่งนี้ด้วยเช่นกัน หากอยากทราบกันแล้วว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะพาคุณไปรู้จัก จะมีสถานที่ใดกันบ้าง เราไปชมพร้อมกันได้เลยดังนี้
1.โครันเค (Korankei)
สำหรับสถานที่แรกที่เราจะพาคุณไปรู้จักกันก็คือ โครันเค (Korankei) ซึ่งบอกได้เลยว่าเป็นสถานที่ที่มีทัศนียภาพงดงามมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนพฤศจิกายนพื้นที่ของ 2 ข้างฝั่งนั้นจะปรากฏสีแดงและสีเหลืองสลับกันสวยงาม เนื่องจากต้นเมเปิ้ลที่อยู่ทั้งสองฝั่งของแม่น้ำนั้นมีมากราว 4000 ต้น เผยโฉมเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาลงดงามและมีความโรแมนติกอย่างมาก อีกทั้งยังล้อมรอบไปด้วยภูเขาอันอุดมสมบูรณ์ที่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิด แนะนำจากนี้สีสันของธรรมชาติก็จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลไม่ว่าจะฤดูร้อนฤดูใบไม้ผลิฤดูใบไม้ร่วงฤดูหนาวก็ตาม ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวธรรมชาติที่งดงามมากในจังหวัดไอจิที่ผู้คนทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติต่างนิยมมา
2.ชิบะซากุระ (Shibazakura)
จะพาคุณมาท่องเที่ยวที่ภูเขากันบ้างสำหรับภูเขาแห่งนี้มีชื่อว่า ชิบะซากุระ (Shibazakura) ซึ่งอยู่ระหว่างรอยต่อของจังหวัดนากาโน่กับจังหวัดไอจิ สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาชาอุสึ เรียกได้ว่าเป็นที่ราบสูงพี่รายล้อมไปด้วยสีสันของพืชพันธุ์นานาชนิด อีกทั้งยังมีทุ่งดอกไม้อันงดงามให้คุณได้ชมกันแบบชิลล์ๆ นอกจากนี้ยังมีทะเลสาบที่ทำให้เรารู้สึกเย็นสบายเมื่อได้มาถึง ยอดเขาแห่งนี้มีความสุขมากถึง 1415 เมตร เรียกได้ว่าหากคุณขึ้นไปถึงยอดเขาคุณก็จะมองเห็นทัศนียภาพของเมืองได้ถึงสองเมืองกันเลยทีเดียว สำหรับเนินเขา
ภูเขาชาอุสึ รอยต่อของจังหวัดไอจิและจังหวัดนากาโนะ เป็นยอดเขาสูง 1,415 เมตร สูงที่สุดในจังหวัดไอจิ บริเวณพื้นที่ราบสูงของภูเขารายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามร่มรื่น ทั้ง ป่าต้นชิราคาบะ ทะเลสาบ และทุ่งหญ้าเขียวขจี ทำให้รู้สึกสดชื่นShibazakura แห่งนี้ผู้คนมักจะมาเยี่ยมชมกันในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เพราะจะสามารถสัมผัสได้ถึงความงามของดอกไม้ที่ชื่อพิงค์มอส เนื่องจากจะบานสะพรั่งไปทั่วพื้นที่ขนาดใหญ่เราราวๆ 22,000 ตารางเมตร เรียกได้ว่าเป็นทุ่งพิงค์มอสกันเลยก็ว่าได้อีกทั้งยังมีดอกซากุระมากถึง 6 สายพันธุ์ ที่มีทั้งสีม่วง สีขาว และสีชมพูสลับกันผิดดอกออกใบให้คุณได้ชื่นชมซึ่งบรรยากาศในช่วงของฤดูใบไม้ผลิหาคุณได้มาพบเห็นก็คงจะต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าโรแมนติกสุดๆเลยล่ะ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวของจังหวัดไอจิที่หากใครได้มาต้องไม่ควรพลาด
3.นาข้าวขั้นบันไดโยทสึยะ (Yotsuya No Senmaida)
มาต่อกันกับนาข้าวแบบขั้นบันไดที่มีชื่อว่า นาข้าวขั้นบันไดโยทสึยะ (Yotsuya No Senmaida) สำหรับสถานที่แห่งนี้อยู่คู่กับประเทศญี่ปุ่นมายาวนานกว่า 400 ปี เรียกได้ว่าเป็นสถานที่โบราณอีก 1 แห่งในจังหวัดไอจิ ซึ่งชาวนาชาวญี่ปุ่นจะทำการปลูกข้าวญี่ปุ่นตลอดแนวเชิงเขา และผู้คนทั้งหมู่บ้านก็ล้วนแล้วแต่มีอาชีพชาวนา การเพาะปลูกข้าวที่มีมากกว่า 420 ผืนแต่ในอดีตเคยมีมากถึง 1296 ผืน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ซึ่งเป็นมรดกทางทรัพย์สินปัญญาพี่บรรพบุรุษชาวญี่ปุ่น ต่างสร้างเอาไว้เพื่อให้ลูกหลานและคนรุ่นใหม่ได้หวงแหน มีความงดงามแปลกและแตกต่างจากสถานที่อื่นๆอีกครั้งในปัจจุบันยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเยี่ยมชมได้อีกด้วย
4.พิพิธภัณฑ์เมจิมูระ (Museum Meiji-Mura)
เราจะพาคุณมารู้จักกับพิพิธภัณฑ์ในจังหวัดไอจิกันบ้างสำหรับสถานที่แห่งนี้มีชื่อว่า พิพิธภัณฑ์เมจิมูระ (Museum Meiji-Mura) ซึ่งเรียกได้ว่าหากคุณมาพบเห็นคุณจะต้องทึ่งกับสถาปัตยกรรมอันงดงามซึ่งได้รับอิทธิพลในการสร้างมาจากฝั่งตะวันตกในช่วงยุคสมัยเมจิ หรือประมาณช่วงยุครัชกาลที่ 5 ของประเทศไทย อีกทั้งสถานที่แห่งนี้ยังได้ใช้เป็นโลเคชั่นเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์ต่างๆ รวมถึงละครและโฆษณาอย่างมากมาย
ในส่วนของด้านในพิพิธภัณฑ์นั้นได้มีร้านสำหรับเช่าเครื่องแต่งกายของยุคโบราณในช่วงสมัยเมจิเอาไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย สำหรับท่านใดที่ต้องการถ่ายภาพเพื่อบันทึกไว้เป็นความทรงจำดีๆกับสถานที่แห่งนี้ด้วยชุดโบราณ ก็สามารถไปเยี่ยมชมและเช่าชุดถ่ายภาพกันได้ที่นี่ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมสูงจากเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวที่หากได้มาจังหวัดไอจิก็มักจะต้องแวะมาอยู่เสมอ
5.พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า
(TOYOTA Commemorative Museum of Industry and Technology)
อีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่เราอยากจะพาคุณไปรู้จักก็คือ พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า (TOYOTA Commemorative Museum of Industry and Technology) ที่ต้องเขาบอกก่อนเลยว่าใครที่เป็นสาวกแบรนด์ Toyota ไม่ควรพลาด เนื่องจากพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รวบรวมสุดยอดเทคโนโลยีในยุคต่างๆของบริษัทโตโยต้าเอาไว้ที่นี่ ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงยุคปัจจุบันอีกทั้งยังมีการจัดการแสดงสาธิตการทำงานของเครื่องจักรต่าง ๆที่ใช้ในการผลิตและใช้ในการขับเคลื่อนรถยนต์ Toyota ให้ผู้เยี่ยมชมได้ชมกันอีกด้วย
อีกทั้งภายในยังมีมุมเทคโนโลยีเอาไว้เพื่อให้เด็กๆได้เรียนรู้และมีห้องสมุดสำหรับให้ครอบครัวและผู้เข้าชมได้เข้าไปศึกษาและอ่านอย่างเพลิดเพลินๆถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เรียกได้ว่านอกจากจะชมกันแบบเพลินแล้วยังได้ความรู้อีกด้วย หากคุณชื่นชอบรถยนต์ก็สามารถมาชมกันได้และคุณจะได้รู้จักกับรถยนต์โตโยต้ามากยิ่งขึ้น
6.ปราสาทอินุยามะ (Inuyama Castle)
จะพาคุณมาปิดท้ายกันที่ ปราสาทอินุยามะ (Inuyama Castle) ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นเมืองแห่งปราสาท เพราะหากคุณสังเกตก็จะเห็นได้ชัดว่าแทบทุกจังหวัดของประเทศญี่ปุ่นจะมีปราสาทที่สำคัญในจังหวัดนั้นๆตั้งอยู่ และในจังหวัดไอจินี้ก็เช่นกัน สำหรับปราสาทแห่งนี้ถูกก่อตั้งขึ้นในช่วงปีพศ 2080 เรียกได้ว่ามีอายุค่อนข้างเอาแก่เราๆกว่า 500 ปีเห็นจะได้ อีกทั้งหอคอยในปราสาทแห่งนี้ยังมีความเก่าแก่มากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิผู้คนมักจะมาชมดอกซากุระบานที่ปราสาทแห่งนี้ เรียกได้ว่าเป็นจุดชมซากุระที่สำคัญของจังหวัดไอจิอีก 1 แห่ง อีกทั้งยังเป็น 1 ใน 5 ของปราสาทที่ได้รับคัดเลือกให้ขึ้นทะเบียนเพื่อเป็นสมบัติของประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากมีความสำคัญประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นค่อนข้างมาก อีกทั้งยังมีสถาปัตยกรรมที่งดงามมากๆอีกด้วย ซึ่งหากคุณได้มาที่จังหวัดไอจิแล้วก็ต้องขอบอกเลยว่าคุณไม่ควรพลาดปราสาทอินุยามะแห่งนี้
จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับเรื่องราวของ 6 สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดไอจิ ที่สายชิลล์ไม่ควรพลาดในปี 2022! เราได้นำมาบอกเล่าสู่กันฟังไปเมื่อสักครู่อย่างไรก็ตามพวกเราทีมงานก็หวังอย่างยิ่งว่าเรื่องราวนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่านที่ต้องการไปเที่ยวยังจังหวัดไอจิ และหวังอย่างยิ่งว่าสิ่งที่เรานำมาฝากกันในครั้งนี้ จะทำให้คุณชื่นชอบและถูกใจกันได้มากยิ่งขึ้นนะคะ
ก่อนจากกันอย่างเช่นทุกครั้ง พวกเราทีมงานต้องขอฝากบทความดีๆที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นจากพวกเราทีมงานกันไว้แต่เพียงเท่านี้ แล้วกลับมาพบกันได้ใหม่ในครั้งต่อไป ขอขอบคุณท่านผู้อ่านอย่างยิ่งสำหรับการติดตามอ่านอย่างเสมอมา ขอให้ทุกท่านโชคดีและมีความสุขไปกับการเดินทางนะคะ Have a nice Trip painaidee-japan