ย่านชินเซไก เป็นอีกย่านหนึ่งที่มีความสำคัญในเมืองโอซาก้ามาตั้งแต่อดีต มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน นับเป็นอีกย่านหนึ่งที่หากได้มาเยือนโอซาก้าแล้ว ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง และถ้าหากได้มาเที่ยวในย่านนี้เชื่อว่าทุกคนต้องสะดุดตากับเจ้าหอคอยที่เป็นเหมือนกับสัญลักษณ์ของย่านนี้เลยนั่นก็คือ “หอคอยซึเทนคาคุ” นั่นเองครับ
หอคอยซึเทนคาคุนั้น เป็นเหมือนกับสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้าในยุคนั้น ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1912 โดยได้รับอิทธิพลมาจากหอไอเฟลในกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส อ่านมาถึงตรงนี้อย่าพึ่งตกใจกันไป “เฮ้ย! ไม่เห็นจะเหมือนกันตรงไหนเลย!” แน่นอนครับว่าต้องไม่เหมือนอยู่แล้วเพราะรูปแบบหอคอยที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบันนั้น เป็นหอคอยที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่แทนของเก่า เนื่องจากหอคอยหลังเก่าถูกโจมตีทางอากาศในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้หอคอยเสียหายอย่างหนักจนต้องรื้อถอนออกไป ต่อมาในช่วงปี 1956 ชาวเมืองโอซาก้าจึงร่วมแรงร่วมใจกันขอร้องให้ทางรัฐบาลมีการก่อสร้างหอคอยขึ้นมาใหม่
หอคอยซึเทนคาคุ ถูกสร้างขึ้นในย่าน “ชินเซไค” ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “โลกใหม่” เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของย่านนี้และแสดงถึงความเจริญ ความก้าวหน้า ความทันสมัยของเมืองโอซาก้าในยุคนั้น เดิมทีหอคอยหลังเก่านั้น สร้างเลียนแบบหอไอเฟล และ มีความสูงอยู่ที่ 64 เมตร ซึ่งเป็นหอคอยที่ สูงที่สุดในเอเชียในยุคนั้นเลยครับ และหลังจากที่หอคอยโดนระเบิดจนพังลง หอคอยแห่งใหม่ก็ได้สร้างขึ้นแทนโดยมีการออกแบบใหม่ และมีความสูงอยู่ที่ 103 เมตร (มากกว่าหอคอยเก่าอยู่ 39 เมตร) ซึ่งปัจจุบันนี้หอคอยซึเทนคาคุนั้น กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของโอซาก้าเลยก็ว่าได้ ซึ่งในแต่ละปีนั้น จะมีนักท่องเที่ยวแวะมาเที่ยวที่หอคอยซึเทนคาคุมากกว่า 700,000 คนเลยทีเดียว
ภายในหอคอย ซึเทนคาคุ
ภายในหอคอยซึเทนคาคุนั้น มีทั้งหมด 5 ชั้น แบ่งออกได้ดังนี้ ชั้นที่ 1 จะเป็นทางเข้าหอคอย ซึ่งพอเราเข้ามาแล้วก็จะพบกับแผนกต้อนรับและมีจุดจำหน่ายตั๋วให้บริการอยู่ ณ จุดนี้ โดยค่าเข้าชมนั้น ราคาจะอยู่ที่ ผู้ใหญ่คนละ 800¥ และ เด็ก ที่มีอายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไป จนถึง นักเรียนระดับมัธยมศึกษา ราคา 400¥ ต่อมา ในส่วนของชั้นที่ 2 นั้น จะเป็นร้านขายของที่ระลึกที่เกี่ยวกับเมืองโอซาก้าและย่านชินเซไก และนอกจากนี้ยังมี พิพิธภัณฑ์คินนิคุแมน จัดแสดงไว้อีกด้วย ซึ่งใครที่เป็นแฟนคลับของคินนิคุแมนต้องถูกใจสิ่งนี้อย่างแน่นอน
ถัดมา ในส่วนของชั้นที่ 3 นั้น จะเป็นร้านกาแฟและ “กุลิโกะยะ” หรือ ร้านขายขนมกุลิโกะนั่นเองครับ ซึ่งที่นี่นอกจากจะเป็นที่ๆ ที่เราจะได้แวะนั่งพัก จิบชากาแฟกันแล้ว ในส่วนของร้านกุลิโกะนั้นก็มีสินค้าจากแบรนด์ของกุลิโกะมาให้ได้เลือกซื้อกันอีกเยอะแยะมากมาย และต้องบอกไว้ก่อนเลยครับว่า สินค้าบางอย่างนั้น มีวางจำหน่ายแค่เฉพาะที่นี่เท่านั้นด้วย หากพลาดไปละเสียดายแย่เลยครับ
ชั้นที่ 4 กับ ชั้นที่ 5 จะเป็นจุดชมวิว เราสามารถดูวิวเมืองโอซาก้าได้ 360 องศากันเลยทีเดียว รวมถึงวิวรอบๆ ย่านชินเซไกแห่งนี้ด้วยครับ อีกจุดนึงที่น่าสนใจเกี่ยวกับหอคอยนี้คือ คุณรู้หรือไม่ครับว่า “หอคอยซึเทนคาคุนั้น สามารถบอกสภาพอากาศได้ด้วย” โดยที่จุดบนสุดของหอคอยนั้นจะมีไฟส่องสว่างอยู่ 2 แถว โดยแต่ละสีก็จะ ก็จะมีความหมายแตกต่างกันไป โดยสีขาว คือ อากาศดี สีฟ้า คือ ฝนตก และ สีส้ม คือ มีเมฆปกคลุม เช่น ถ้าไฟแถวบนคือ สีส้ม และแถวล่างคือสีฟ้า ก็จะหมายถึง ตอนนี้มีเมฆมากและอาจจะมีฝนตกลงมาได้ในไม่ช้า เป็นต้น
การเดินทาง
สำหรับการเดินทางมาเที่ยวที่หอคอยซึเทนคาคุนั้น หากคุณเดินทางมาจากสถานี Namba ให้ขึ้นรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Dobutsuen-mae ได้เลย จากนั้นเดินต่ออีก 3-5 นาที ก็จะถึงย่านชินเซไคละครับ เดินทางไม่ยากครับ สะดวกมากๆ เลย
อ้างอิง https://www.talonjapan.com/tsutenkaku-tower/
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> ป๊อกเด้งออนไลน์