ได้รู้จักกับหลากหลายสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นกันไปพอสมควรแล้ว ในครั้งนี้จะพาคุณมารู้จักกับอีกหนึ่งซึ่งเป็นจังหวัดเล็กๆที่มีชื่อว่าจังหวัดโทชิงิ สำหรับวันนี้เราได้รวบรวม 5 สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติของจังหวัดโทชิงิ ที่สายชิลล์ต้องไม่ควรพลาด! เอามาฝากคุณกันไว้ที่นี่ และยังคงอยู่กันในประเทศญี่ปุ่นอีกเช่นเคย เพราะเราเชื่อว่ายังคงมีเรื่องราวและอีกหลายสถานที่ที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย หากอยากทราบกันแล้วว่ามีที่ใดน่าไปเยี่ยมชมบ้าง ต้องอย่ารอช้าเราไปชมพร้อมๆกันได้เลยดังนี้
1.ล่องแม่น้ำสายคินุกาวะ (鬼怒川ライン下り)
สำหรับสถานที่แรกที่เราจะพาคุณไปก็คือ ล่องแม่น้ำสายคินุกาวะ (鬼怒川ライン下り) ซึ่งเป็นแม่น้ำที่มีขนาดใหญ่ที่หลายอย่างเชี่ยวกราดอยู่ในหุบเขาที่มีชื่อว่าคินุกาวะ ซึ่งต้องขอบอกเลยว่ามีความสวยงามในแบบธรรมชาติสุดๆในช่วงฤดูใบไม้ร่วงใบไม้ก็จะเปลี่ยนสี บรรยากาศในบริเวณแห่งนี้ก็จะยิ่งมีความโรแมนติกและงดงามอย่างยิ่ง ซึ่งคุณสามารถทำกิจกรรมล่องแก่งในแม่น้ำแห่งนี้ได้อย่างสนุกสนาน
อีกทั้งสีของน้ำยังใสแจ๋วทำให้คุณมองเห็นตัวปลาที่อยู่ในแม่น้ำได้อย่างชัดเจน หากคุณต้องการมาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้คุณสามารถมาในช่วงเดือนเมษายนไปจนถึงเดือนพฤศจิกายนได้ตามปกติ แต่หลังจากเดือนพฤศจิกายนสถานที่แห่งนี้ก็จะปิดไม่ให้เข้าชม ในช่วงเดือนเมษายนนั้นจะมีเรือที่จะออกทุกๆ 30 นาทีและมีวันละ 12 รอบ ซึ่งหากคุณต้องการมาที่นี่ก็สามารถโทรศัพท์ถามก่อนได้สำหรับเวลาเปิดให้บริการจะเริ่มตั้งแต่ 9 โมงเช้าไปจนถึงช่วงเย็นคือเวลา 15:45 น. การเดินทางมาที่นี่คุณสามารถเดินจากสถานีKinugawa Onsen สาย Tobu Nikkoโดยใช้เวลาเพียง 5 นาทีก็จะถึงที่หมายแบบยุ่งยาก
2. วัดนิกโกซังรินโนจิ (日光山輪王寺)
มาต่อกันกับอีกหนึ่งสถานที่ที่มีชื่อว่า วัดนิกโกซังรินโนจิ (日光山輪王寺) สำหรับวัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยผู้ที่ได้นำศาสนาพุธเข้ามาเผยแพร่ในประเทศญี่ปุ่นซึ่งก็คือพระโชโด โชนิน สำหรับเมืองนิโกะถือเป็นเมืองที่มีแหล่งมรดกโลก ที่สำคัญอยู่หลากหลายสถานที่รวมทั้งวัดแห่งนี้ด้วยเช่นกัน หากคุณได้มาที่จังหวัดนี้คุณสามารถมาเยือนวัดนี้ได้
เป็นวัดที่มีความสวยงามและหากคุณได้ไปถึงแล้ว ต้องอย่าลืมสักการะศาลเจ้าฟูระตะซันและศาลเจ้าโทโชกุ ซึ่งอยู่ใกล้ใกล้กับบริเวณนั้นด้วยและนอกจากนี้ยังมีสวนแบบญี่ปุ่นซึ่งเป็นสวนโบราณในยุคสมัยเอโดะ จึงมีชื่อว่าสวนโชโยให้คุณได้เดินชมพืชพรรณได้อย่างเพลิดเพลิน และนอกจากนี้ยังมีศาลอื่นๆให้คุณได้สักการะ ซึ่งเรียกได้ว่าหากคุณมาวัดนี้หนึ่งที่ก็จะสามารถเข้าไปสักการะศาลเจ้าได้หลากหลายแห่งเลยทีเดียว
3.เอโดะ วันเดอร์แลนด์ (日光江戸村)
จะพาคุณมารู้จักกับอีกหนึ่งสถานที่ ที่เหมาะกับการพักครอบครัวมาเยี่ยมชมมากๆหากได้มาเยือนจังหวัดนี้ ซึ่งก็คือเอโดะ วันเดอร์แลนด์ (日光江戸村) ซึ่งเป็นสวนสนุกที่ทำให้คุณรู้สึกราวกับว่าย้อนยุคมาในช่วงสมัยเอโดะกันเลยก็ว่าได้ เพราะพนักงานที่นี่ก็ยังสวมใส่ชุดญี่ปุ่นโบราณ อีกทั้งคุณยังสามารถแต่งกายแบบโบราณมาเดินในสถานที่แห่งนี้ได้อีกด้วย เพราะมีชุดชาวบ้านในแบบยุคโบราณให้คุณได้เช่าสวมใส่
อีกทั้งยังมีโรงละครที่มีการแสดงละครแบบสดๆให้คุณได้ชมกันได้อย่างเพลิดเพลิน มีอาคารต่างๆที่ถูกสร้างจำลองขึ้นมาคล้ายกับยุคสมัยโบราณ รวมทั้งร้านค้า ร้านอาหารที่มีสถาปัตยกรรมแบบโบราณให้คุณได้เห็น ซึ่งหากคุณมาที่นี่คุณจะรู้สึกราวกับว่าคุณกำลังอยู่ในช่วงยุคสมัยเอโดะกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ภายในยังมีพิพิธภัณฑ์อีก2แห่งซึ่งก็คือ Kira Kozukenosuke Residence และ Kodenmacho Jail House ซึ่งทั้งหมดนี้จะเปิดให้บริการตั้งแต่ช่วงเวลาเช้าคือ 9 โมงครึ่งไปจนถึง 4 โมงเย็น และจะปิดทำการทุกวันพุธสำหรับค่าเข้าชมสถานที่แห่งนี้อยู่ที่ประมาณ 4700 เยน และในช่วงฤดูร้อนก็จะมีการลดราคาเหลือเพียง 4100 เยนเท่านั้น ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ผู้ที่ชื่นชอบความเป็นญี่ปุ่นโบราณต้องไม่ควรพลาด
4.ถนนอิโรฮาซากะ (いろは坂)
จะพาคุณมาต่อกับอีกหนึ่งสถานที่ที่มีชื่อว่า ถนนอิโรฮาซากะ (いろは坂) ซึ่งคุณสามารถเช่ารถเพื่อขับมาสถานที่แห่งนี้ได้เพื่อชมทัศนียภาพอันสวยงามของจังหวัดแห่งนี้ ซึ่งหากนึกภาพตามไม่ออกให้คุณดูภาพทางด้านบนที่เรานำมาฝาก เส้นทางของถนนที่คดเคี้ยวต้องขอบอกเลยว่ามีความสวยงามและมีความเป็นธรรมชาติแบบสุดๆแต่ก็ต้องควรขับรถอย่างระมัดระวังกันด้วยนะคะ
แต่คุณผ่านไปยังถนนเส้นนี้คุณสามารถชมทะเลสาบซูเซ็นจิได้อย่างเพลิดเพลิน ในช่วงฤดูร้อนต้นไม้ใบหญ้าของสองข้างทางก็จะเป็นสีเขียวคะจีแต่หากคุณไปในช่วงฤดูใบไม้ผลิทัศนียภาพก็จะเปลี่ยนไปเป็นสีแดงสีเหลืองและสีส้มสลับกันอย่างงดงามมีความโรแมนติกอย่างมาก และนอกจากนี้คุณยังสามารถนั่งกระเช้าเพื่อไปชมทัศนียภาพบนจุดชมวิวได้อีกด้วยซึ่งกระเช้าที่เราได้กล่าวอยู่นี้มีชื่อเรียกว่า กระเช้าอะเคจิไดระ ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งหากได้มาเมืองนี้
5.ทะเลสาบจูเซ็นจิ (中禅寺湖)
และสถานที่สุดท้ายที่เราจะพาคุณไปรู้จักก็คือ ทะเลสาบจูเซ็นจิ (中禅寺湖) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นทะเลสาบที่มีความงดงามถ้าคุณได้มาคุณจะมองเห็นถึงทัศนียภาพอันสวยงามและมองเห็นภูเขาที่เรียกว่าภูเขาไฟนันตาอิ หากนึกภาพตามไม่ออกก็ให้ชมที่ภาพทางด้านบนที่เรานำมาฝากกันได้เลย ซึ่งในภาพที่เราคิดว่าสวยงามแล้วแต่หากคุณได้ไปชมด้วยตาตัวเองนั้น คุณคงจะต้องบอกว่าของจริงสวยกว่ามาก สำหรับสถานที่แห่งนี้ถูกอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่คู่รักหลายหลายคู่มักจะจุงมือกันชมธรรมชาติที่นี่ เพราะใบไม้ก็จะเริ่มเปลี่ยนสีสวยงามและมีบรรยากาศที่โรแมนติกสุดๆ
ซึ่งไม่ได้เพียงทำได้แค่ชมวิวเท่านั้น แต่คุณยังสามารถเดินป่าได้อย่างปลอดภัยเนื่องจากมีเส้นทางให้เดินป่าได้ในทุกๆฤดูกาลอีกด้วย ความอะเมซซิ่งอีกหนึ่งอย่างของสถานที่แห่งนี้ก็คือ มีดอกกุหลาบพันปีและจุดชมดอกซากุระให้คุณได้เพลิดเพลินและประทับใจได้อย่างเหลือเชื่อ และสิ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือการนั่งเรือสำราญเพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสีนั่นเอง สำหรับค่าเรือสำราญจะอยู่ที่ประมาณชั่วโมงละ 1250 เยน แต่จะเปิดให้บริการในช่วงเดือนเมษายนไปจนถึงเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่งดงามและไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
ได้รู้จักกับเมืองโทชิงิกันมากขึ้นไปแล้วซึ่งเราหวังอย่างยิ่งว่าเรื่องราวของ 5 สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติของจังหวัดโทชิงิ ที่สายชิลล์ต้องไม่ควรพลาด! ที่เราได้นำมาฝากกันไปนั้นจะทำให้คุณชื่นชอบและถูกใจไปกับแต่ละสถานที่ และหากบทความนี้มีประโยชน์ต้องอย่าลืมส่งต่อให้กับคนที่คุณรักนะคะ ก่อนจากกันในครั้งนี้ต้องไปขอบคุณท่านผู้อ่านทุกท่านที่คอยติดตามเรื่องราวที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นจากพวกเราที่นี่อย่างเสมอมา สำหรับครั้งนี้ต้องขออนุญาตลากันไปแต่เพียงเท่านี้ แล้วกลับมาพบกับพวกเราได้ใหม่ในครั้งต่อไป และหากผิดพลาดประการใด พวกเราทีมงานต้องขออภัยกันไว้ ณ ที่นี้อย่างสูง ขอให้ทุกท่านโชคดีและมีความสุขไปกับทุกๆสถานที่นะค painaidee-japan
เครดิต : สล็อตเว็บตรง