จะพาคุณไปรู้จักกับอีกหนึ่งจังหวัดที่มีความน่าสนใจ กับจังหวัดที่มีชื่อว่าฟุกุชิม่าหรือใครหลายคนอาจเรียกว่าฟุกุชิมะ ซึ่งในครั้งนี้เราจะพาคุณไปท่องเที่ยวกับ 5 สถานที่ท่องเที่ยวสุดธรรมชาติแห่งเมือง ฟุกุชิม่า ที่น่าไปเยือนแห่งปี 2022 ! ซึ่งหากคุณได้มีโอกาสไปยังจังหวัดแห่งนี้คุณจะได้สัมผัสถึงกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นโบราณ เป็นเมืองเล็กๆที่มีความสวยงามและอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันแสนสงบ ซึ่งในแต่ละแห่งที่เราจะพาคุณไปชมกันในครั้งนี้ล้วนแล้วแต่มีความงดงามที่แตกต่างกัน หากอยากทราบกันแล้วว่าจะมีที่ใดน่าไปบ้าง ต้องอย่ารอช้าเราไปชมพร้อมๆกันได้เลยดังนี้
1.หมู่บ้านโบราณโออุจิ จูกุ (大内宿)
สำหรับสถานที่แรกที่เราจะพาคุณไปรู้จักกันก็คือ หมู่บ้านโบราณโออุจิ จูกุ (大内宿) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นจุดที่เรียกความน่าสนใจให้กับนักเดินทางและชาวต่างชาติทั่วโลกกันกันเลยทีเดียว เพราะจะทำให้คุณรู้สึกราวกับอยู่ในเมืองย้อนยุค สำหรับสถานที่แห่งนี้เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณมีถนนที่ทอดยาวกว่า 500 เมตร ตั้งอยู่ในจังหวัดนีงาตะ เอกลักษณ์ของบ้านเรือนของหมู่บ้านนี้ก็คือ เป็นบ้านแบบชาวนาในสมัยก่อน และมีการมุงหลังคาด้วยหญ้าที่มีความหนามาก จนสามารถต้านทานหิมะในฤดูหนาวได้มาจนถึงปัจจุบัน
สังเกตุได้จากภาพด้านบนที่เรานำมาฝากกันได้เลย ในสมัยอดีตได้เคยเป็นสถานที่พักของเหล่าพ่อค้า และซามูไร รวมทั้งนักเดินทางที่มาที่นี่ แต่ในปัจจุบันได้มีการบูรณะขึ้นมาใหม่และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีร้านค้าต่างๆมีร้านขายของฝากทมีร้านขนมและคาเฟ่น่ารักๆให้คุณได้เข้าไปสัมผัส ในช่วงเทศกาลก็จะมีขบวนพาเรท รวมไปถึงการนำโคมไฟมาจุดวางเอาไว้ ที่บริเวณหน้าบ้านของบ้านทุกๆหลังหากคุณต้องการสัมผัสกับวิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ ก็สามารถมาชมและมาพักได้ ซื้อเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดหักได้มายืนที่จังหวัดฟูกูชิม่าแห่งนี้
2.ปราสาทซึรุกะ (鶴ヶ城)
เราจะพาคุณไปต่อกันที่ ปราสาทซึรุกะ (鶴ヶ城) ซึ่งเป็นปราสาทโบราณที่ได้ทำการบูรณะขึ้นมาใหม่ แต่ก็ยังของความดั้งเดิมในสไตล์ของความเป็นญี่ปุ่นโบราณเอาไว้มากเลยทีเดียว มีทั้งหมดด้วยกัน7ชั้น แต่ในปัจจุบันนั้นจะมีเพียง 5ชั้นเท่านั้น ภายในมีพิพิธภัณฑ์เอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ดู รวมทั้งนักท่องเที่ยวก็สามารถเข้าไปชมโบราณวัตถุภายในได้ มีความงดงามที่จะทำให้เราจะได้สัมผัสถึงศิลปะของความโบราณในสมัยก่อนเป็นอย่างดี
อีกทั้งปราสาทแห่งนี้ยังมีเรือนน้ำชารินคะคุ เพื่อสำหรับจัดทำพิธีชงชา และหากคุณได้มาเยือนคุณก็สามารถเข้ามาจิบชาที่นี่ได้ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิชาวญี่ปุ่นและคนท้องถิ่นที่นี่ ก็มักจะมาชมดอกซากุระ เนื่องจากมีดอกซากุระมากกว่า 1000 ต้นผลิบานโชว์ช่อออกดอกเรียงรายกันอย่างสวยงาม ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความงดงามและมีความสำคัญต่อจังหวัดฟุกุชิม่าเป็นอย่างมาก ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่สุดคลาสสิกที่คุณจะต้องไม่ควรพลาด
3.ทะเลสาบโกชิคินุมะ (五色沼)
เราจะพาคุณมาต่อกันกับอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว ในแบบธรรมชาติกันบ้างซึ่งก็คือ ทะเลสาบโกชิคินุมะ (五色沼) ซึ่งเป็นทะเลสาบที่มีความงดงาม อบล้อมไปด้วยพืชพรรณนานาชนิดที่ผลัดเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล สำหรับสถานที่แห่งนี้ได้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ จนกลายเป็นแอ่งเล็กๆแห่งนี้และมีแอ่งน้ำแห่งอื่นอีกมากมายที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟในครั้งนั้น สำหรับสีน้ำของทะเลสาบแห่งนี้ต้องขอบอกเลยว่ามีความใสและเขียวแบบมรกตราวกับฉากในเทพนิยาย รับกับท้องฟ้าของในแต่ละช่วงฤดูกาลที่ให้สีต่างกัน
สำหรับชื่อของทะเลสาบแห่งนี้ยิงมาจากเทพเจ้าแห่งดนตรีและอักษร มีตำนานและเรื่องเล่าอีกมากมายเกี่ยวกับทะเลสาบแห่งนี้ หากคุณมาในช่วงฤดูร้อนก็จะเห็นต้นไม้ที่เขียวขจีและท้องฟ้าอันสดใส และหากคุณมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิต้นไม้ยอดหญ้าในละแวกนี้ ก็จะผลิใบเปลี่ยนสีสวยงามให้คุณได้มองเห็นมีบรรยากาศที่จะแสนโรแมนติกเหนือคำบรรยาย และจะยิ่งงดงามหากคุณมาในช่วงที่ดอกซากุระกำลังบาน ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ในการพักผ่อนที่มีความสำคัญและมีความงดงามอย่างที่คุณไม่ควรพลาด
4.สวนสาธารณะฮานะมิยามะ (花見山公園)
ถ้าคุณมาต่อกันที่ สวนสาธารณะฮานะมิยามะ (花見山公園) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่คนญี่ปุ่นค่อนข้างให้ความสำคัญเนื่องจากจะมีการจัดเทศกาลชมดอกไม้ที่ดีในทุกๆปี เนื่องจากเทศกาลชมดอกไม้นั้นค่อนข้างมีความสำคัญต่อชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมากเพราะเป็นโอกาสที่ดี ที่จะทำให้แต่ละครอบครัวได้มาพบปะและสังสรรค์กัน โดยการทำกับข้าวมาปิกนิกตามสวนสาธารณะต่างๆที่มีการจัดเทศกาลขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าในทุกสวนสาธารณจะมีการจัดงาน
สำหรับสถานที่แห่งนี้คุณสามารถเดินชมดอกซากุระที่บานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิได้มากกว่า 10 สายพันธุ์ อีกทั้งยังสามารถชมดอกไม้สายพันธุ์อื่นๆได้มากกว่า 70 ชนิด และดอกไม้ที่มีมากในสวนแห่งนี้ก็คือดอกแมคโนเลียรวมไปถึงดอกบ๊วย จึงมีผู้ขนานนามว่าหุบเขาแห่งนี้เป็นหุบเขาแห่งดอกไม้ และสวนสาธารณะแห่งนี้ก็ได้ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงของหุบเขาแห่งดอกไม้นั่นเอง และนอกจากนี้สวนสาธารณะแห่งนี้ยังไม่มีการเสียค่าบัตรเข้าเยี่ยมชมอีกด้วย เรียกได้ว่าชมฟรีไม่เสียตังค์
5.ปราสาทริกะจัง (リカちゃんキャッスル)
เอาใจคนรักการสะสมตุ๊กตาผู้หญิงโดยการจะพาคุณไปรู้จักกับสถานที่ที่มีชื่อว่า ปราสาทริกะจัง (リカちゃんキャッスル) จึงได้ตั้งอยู่ในจังหวัดฟูกูชิม่าและอยู่ในเมืองเล็กๆอย่างเมืองโอโนะ ซึ่งหากคุณมาในสถานที่แห่งนี้ก็จะสามารถชมขั้นตอนการผลิตตุ๊กตาริกะจังได้แบบละเอียด อีกทั้งยังคุณหนูหนูที่ชื่นชอบตุ๊กตาริกะก็สามารถแต่งตัวหรือใส่ชุดของริกะจังได้อีกด้วย เหมาะสำหรับการมาท่องเที่ยวกันทั้งครอบครัว
สำหรับตุ๊กตาริกะจังนั้นเรียกได้ว่าเป็นตุ๊กตาบาร์บี้แห่งประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ มีความสวยงามและมีความน่ารักในสไตล์ญี่ปุ่น นอกจากนี้สำหรับใครที่เป็นแฟนของตุ๊กตาริกะจัง และต้องการซื้อตุ๊กตาที่เป็น Made in Japan ก็สามารถซื้อได้ในปราสาทแห่งนี้เพราะมีอยู่ที่เดียวเท่านั้น และนอกจากนี้ภายในปราสาทยังมีบรรยากาศที่สวยงามราวกับอยู่ในการ์ตูนถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำหรับคนรักตุ๊กตาที่ต้องไม่ควรพลาดหากได้มาที่จังหวัดแห่งนี้
อย่างไรก็ตามก่อนออกเดินทางไปต่างประเทศทุกครั้ง ต้องอย่าลืมตรวจสอบเอกสารในการเดินทางให้รอบคอบ และต้องพกติดตัวอยู่ตลอดเวลานะคะ และสิ่งสำคัญที่ควรมีเอาไว้ในกระเป๋าก็คือยาประจำตัวของคุณหากคุณมีโรคประจำตัวนั่นเอง เพื่อเป็นการดูแลตัวเองที่ดี เพราะยาบางชนิดคุณอาจหาซื้อตามร้านขายยาทั่วไปไม่ได้
แล้วพบกันใหม่กับเรื่องราวดีๆ ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นจากพวกเราได้ที่นี่เช่นเคย ซึ่งจะมีเรื่องราวใดมาฝากกันอีกนั้นต้องรอติดตามกันต่อไปนะคะ สำหรับครั้งต้องขออนุญาตลากันไปก่อน หากผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ อย่าลืมรักษาสุขภาพเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางกันนะคะ และสุดท้ายนี้พวกเราทีมงานหวังอย่างยิ่งว่าเรื่องราวของ 5 สถานที่ท่องเที่ยวสุดธรรมชาติแห่งเมือง ฟุกุชิม่า ที่น่าไปเยือนแห่งปี 2022 ! ที่ได้นำมาฝากกันไปเมื่อสักครู่จะทำให้คุณถูกใจ Have a nice trip and have a nice day painaidee-japan
เครดิต : สล็อตเว็บตรง
