ยังคงอยู่กันในภูมิภาคชิโคกุของประเทศญี่ปุ่นกันที่ ซึ่งหลังจากได้พาคุณไปรู้จักกับหลายๆสถานที่กันแล้ว ในครั้งนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 6 สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัดคางาวะ ที่ต้องไม่ควรพลาด หากได้ไปเยือนภูมิภาคชิโคกุ ! กันบ้าง เพราะเราเชื่อว่าความสวยงามของสถานที่ต่างๆในจังหวัดแห่งนี้ก็มีความงดงามอย่างไม่แพ้สถาานที่อื่นๆกันอย่างแน่นอน และเราได้คัดมาเฉพาะที่เที่ยวเจ๋งๆที่น่าไปเยือน หากต้องการทราบกันแล้วว่าจะมีที่ใดน่าไปชมกันบ้าง อย่ารอช้ากันอยู่เลยเราไปชมพร้อมๆกันเลยดีกว่าค่ะ !
1.แองเจิล โร้ด (エンジェルロード)
จะพาคุณไปเยือนกับสถานที่แห่งแรกที่มีชื่อว่า แองเจิล โร้ด (エンジェルロード) อันมีความสวยงามแบบสุดๆ หรือที่มักจะเรียกกันว่าทางเดินของนางฟ้าทั้งหลาย เนื่องด้วยมาจากปรากฏการตามธรรมชาติของน้ำขึ้นน้ำลงในทะเล ที่ทำให้เราสามารถมองเห็นได้ชัดก็คือ ในช่วงเวลาเช้าและบ่ายนั้นน้ำจะลดลงจะเราสามารถเดินบนชายหาดเล็กๆที่คล้ายกับทางเดินเพื่อไปยังเกาะเล็กๆตามภาพด้านบน
ซึ่งมีความเชื่อกันว่าดินแดนแห่งนี้เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งรัก หากใครได้มากับคู่รักและเดินจูงมือกันตามทางเดินนี้ก็จะครองรักกันอย่างยืนยาวตลอดไป และหากใครที่ยังไม่ได้แต่งงานแต่เป็นคู่รักที่มาด้วยกัน ก็จะได้ลั่นระฆังวิวาห์หลังจากที่ได้มาด้วยกันไม่นาน ถือเป็นสถานที่สำคัญที่คนโสดชาวญี่ปุ่นมักนิยมมาขอพร และคู่รักส่วนใหญ่มักจะมาด้วยกัน สำหรับการเดินทางมาสถานที่แห่งนี้คุณสามารถนั่งเรือเฟอรี่โดยใช้เวลาเพียง 60 นาทีจากท่าเรือTakamatsu หรือหากต้องการเร็วกว่านั้นก็สามารถนั่งเรือสปีดโบ๊ทมาได้โดยใช้เวลาเพียง 35 นาที
2.ศาลเจ้าโคโตฮิระ (金刀比羅宮)
จะพาคุณไปต่อกันที่ศาลเจ้าโคโตฮิระ (金刀比羅宮) สำหรับสถานที่แห่งนี้คือศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังอันเป็นที่เคารพของผู้คนชาวจังหวัดคางาวะ เป็นบันไดหินที่มีขั้นบันไดมากถึง 1368 ขั้นและค่อนข้างมีความสูง ซึ่งหากใครมาจังหวัดนี้ก็จำเป็นจะต้องมาไหว้ศาลเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ด้วยเช่นกัน หากคุณมาในช่วงเทศกาล ก็จะมีการแสดงพื้นบ้านและการร่ายรำแบบมิโกะ อันเป็นประเพณีแบบท้องถิ่นของคนที่นี่ ที่สามารถชมได้เฉพาะในช่วงเทศกาลเท่านั้น นอกจากนี้ในละแวกศาลเจ้าก็ยังมีอุดงชื่อดังของชาวท้องถิ่นขายอีกด้วย สำหรับการเดินทางมาที่นี่สามารถเดินจากสถานีรถไฟKotoden Kotohira โดยใช้เวลาเพียง 5 นาที ก็ถึงที่หมายแล้ว
3.สะพานเซโตะโอฮาชิ (瀬戸大橋)
จะพาคุณมาต่อกันที่ สะพานเซโตะโอฮาชิ (瀬戸大橋) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสะพานสองชั้นที่เป็นสะพานเหล็กอันมีความยาวที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ด้วยระยะทางที่ยาวไกลถึง 13.1 กิโลเมตร ซึ่งเป็นสะพานแขวนสายเคเบิ้ล สำหรับสะพานด้านบนเอาไว้สำหรับให้รถยนต์วิ่งผ่าน และด้านล่างเป็นสะพานที่มีไว้สำหรับให้รถไฟJRวิ่งผ่านเท่านั้น ถ้าคุณได้มีโอกาสขับรถไปยังสะพานแห่งนี้ก็จะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์จากด้านบนได้อย่างงดงาม
ในช่วงวันหยุดจะมีการประดับไฟบนสะพานแห่งนี้ ซึ่งบรรยายถึงความสวยงามไม่ถูกเลยจริงๆ เลยอยากจะขอบอกคุณผู้อ่านว่าคุณควรมาเห็นด้วยตัวเองแล้วล่ะ ซึ่งคุณสามารถนั่งรถไฟชมวิวแห่งนี้ได้โดยการขึ้นจากสถานีJR Takamatsu หรือสามารถนั่งรถบัสจากสถานีรถไฟJR Sakaiteก็ได้ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่สวยงามที่หากได้มาเยือนในจังหวัดแห่งนี้แล้วต้องไม่ควรพลาด
4. วัดโฮเน็นจิ (法然寺)
ต่อกันที่ วัดโฮเน็นจิ (法然寺) ซึ่งตั้งอยู่ในย่านบุชโชซัง เอกลักษณ์ของสถานที่แห่งนี้คือเจดีย์5 ชั้น ตามภาพที่เราได้นำมาฝากทางด้านบน ซึ่งเป็นสันยารักที่สำคัญของวัดในประเทศญี่ปุ่น หากคุณได้มาที่วัดแห่งนี้คุณสามารถไปสักการะพระนอนและขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ซึ่งเชื่อว่าหากใครได้มาขอก็จะสมหวังทุกประการ อีกทั้งในย่านนั้นก็มีร้านขนมจองแก่และร้านขายอาหารแบบท้องถิ่น ให้คุณได้เข้าไปลองชิมกันได้
ซึ่งคุณจะได้สัมผัสกับกลิ่นอายความดังเดิมแบบญี่ปุ่น และบรรยากาศของความคลาสสิคที่นี่ ที่จะทำให้คุณจดจำและยิ้มได้ทุกครั้งเมื่อนึกถึง สามารถเข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 8 โมงเช้าไปจนถึง 6 โมงเย็น และในส่วนของภายในอุโบสถนั้นสามารถเข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 9 โมงเช้าไปจนถึง 4 โมงเย็น สำหรับการเดินทางมาสถานที่แห่งนี้เพียงคุณเดินจากสถานีรถไฟKotodenbuchokan โดยใช้เวลา 15 นาทีเท่านั้นก็จะมาถึงวัดนี้ได้แบบง่ายๆไม่ยุ่งยาก
5.สวนริทสึริน (栗林公園)
และเราจะพาคุณมาปิดท้ายกันที่ สวนริทสึริน (栗林公園) สำหรับสถานที่แห่งนี้เรียกได้ว่าเคยเป็นสถานที่พักตากอากาศของเจ้าเมืองเมื่อครั้งอดีต มีความสวยงามและกว้างใหญ่ และมีความเก่าแก่ที่ยาวนานมากกว่า 400 ปี จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ได้ยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ที่ใหญ่และมีความสวยงามที่สุดในประเทศญี่ปุ่น จุดเด่นของสวนสาธารณะแห่งนี้ก็คือสะพานไม้ที่ทอดยาว รวมทั้งเรือนชงชาโบราณ ที่เราสามารถเข้าไปชมวิธีการดื่มชาแบบญี่ปุ่นได้ อีกทั้งยังมีอาคารสำหรับการแสดงงานศิลปหัตถกรรมแบบโบราณอย่างอาทิ เครื่องปั้นดินเผา, เครื่องเขินแบบญี่ปุ่น รวมทั้งงานเครื่องเคลือบอีกมากมาย
ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสถึงวิถีชีวิตของคนโบราณในญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี สำหรับสวนสาธารณะแห่งนี้ในช่วงค่ำคืนของฤดูใบไม้ผลิจะมีการประดับไฟเพื่อให้ผู้คนได้ชื่นชมความสวยงามของค่ำคืนฤดูใบไม้ผลิ รวมทั้งคุณสามารถชมดอกซากุระบานได้ที่นี่ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความงดงาม และมีความโรแมนติกแบบสุดๆอีกหนึ่งแห่ง ที่หากได้มาเยือนจังหวัดนี้ต้องห้ามพลาด สำหรับการเดินทางมาสถานที่แห่งนี้คุณสามารถเดินจากสถานีรถไฟJR Ritsurin Kouenkitaguchi เพียงใช้เวลา 3 นาทีด้วยกันมาถึงได้แบบไม่ยุ่งยาก และสามารถเข้าชมได้ตั้งแต่ช่วงเวลา 7 โมงเช้าไปจนถึง 5 โมงเย็นโดยมีค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ประมาณ 410 เยนและสำหรับเด็กชั้นมัธยม 170 เยน หรือหากคุณมาในช่วงวันที่1 มกราคมไปจนถึงวันที่ 16 มีนาคม ก็จะเข้าชมฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ได้รู้จักกับจังหวัดคางาวะกันไปพอสมควรพร้อมทั้งเรื่องราวของ 6 สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัดคางาวะ ที่ต้องไม่ควรพลาด หากได้ไปเยือนภูมิภาคชิโคกุ ! ที่ได้นำมาฝากกันไปเมื่อสักครู่นี้ พอจะเป็นประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่านที่กำลังมองหาสถานที่เที่ยวในจังหวัดแห่งนี้กันได้บ้างหรือไม่คะ หากทราบแล้วก็อย่าลืมพลาดสำหรับการเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ และอีกสิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้เลยคืออย่าลืมตรวจสอบหนังสือเดินทางกันให้เรียบร้อยก่อนวันเดินทางนะคะ ทั้งนี้เพื่อลดความเสียเวลาของและความยุ่งยากที่อาจจะเกิดขึ้นไปได้นั่นเอง
สำหรับวันนี้ต้องขออนุญาตลากันไปก่อน หากมีสิ่งใดผิดพลาดพวกเราทีมงานต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แล้วกลับมาพบกับพวกเราได้ใหม่ในครั้งต่อไปนะคะ สำหรับเรื่องราวในครั้งต่อไปจะอะไรดีๆที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นมาฝากกันอีกนั้น ต้องอย่าลืมติดตามกันต่อไป และหากบทความนี้มีประโยชน์ต่อคุณผู้อ่านต้องอย่าลืมส่งต่อให้กับคนที่บ้านหรือคนที่คุณรัก เพื่อเป็นประโยชน์ให้กับพวกเขาได้อีกหนึ่งทาง ด้วยความห่วงใยและปรารถนาดีจากพวกเราทีมงาน ขอให้ทุกท่านมีความสุขไปกับทุกๆการท่องเที่ยวและปลอดภัยไปกับทุกๆการเดินทางนะคะ Have a nice day and have a nice trip painaidee-japan
เครดิต : สล็อตแตกง่าย