ได้รู้จักกับจังหวัดต่างๆในประเทศญี่ปุ่นกันไปมากพอสมควรแล้ว ในครั้งนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับจังหวัดนางาซากิ และพาคุณไปท่องเที่ยวกับ 6 สถานที่ท่องเที่ยวสุดชิลล์ของจังหวัดนางาซากิ ที่ควรต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง ! ถึงแม้ว่าจังหวัดนางาซากิจะค่อนข้างเป็นที่รู้จักน้อยของเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติ แต่รู้หรือไม่ว่าจังหวัดแห่งนี้ยังมีมนต์เสน่ห์และเรื่องราวอีกมากมายที่น่าค้นหา รวมทั้งสถานที่เที่ยวสุดเจ๋งที่น่าสนใจ ในวันนี้เราได้รวบรวมแต่ละสถานที่ที่มีความสำคัญต่อจังหวัดและประเทศญี่ปุ่นมาฝากคุณกันไว้ที่นี่ หากอยากทราบกันแล้วว่าจะมีสถานที่ใดน่าไปบ้าง ต้องอย่ารอช้าเราไปชมพร้อมๆกันได้เลยทางนี้
1.พิพิธภัณฑ์ปรมาณูนางาซากิ (長崎原爆資料館)
สำหรับสถานที่แรกที่เราจะพาคุณไปเยี่ยมชมกันในครั้งนี้ก็คือ พิพิธภัณฑ์ปรมาณูนางาซากิ (長崎原爆資料館) สำหรับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับระเบิดปรมาณูตั้งแต่ในช่วงยุคสมัยสงครามครั้งที่ 2 ที่เมื่อครั้งในอดีตระเบิดปรมาณูเหล่านี้ได้เคยถูกทิ้งลงที่กลางใจเมืองนางาซากิ ซึ่งได้สร้างความโศกเศร้าหดหู่ให้กับชาวเมืองจังหวัดนางาซากิ และประชาชนชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมากในครั้งนั้น
สถานที่แห่งนี้ได้มีการรวบรวมข้อมูลต่างๆเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของระเบิดปรมาณู พร้อมทั้งข้อมูลประวัติศาสตร์ในช่วงยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาจัดแสดงงานเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาและได้ทราบถึงเรื่องราวต่างๆในครั้งนั้น
2.น้ำพุร้อนอุนเซน (雲仙地獄)
อีกหนึ่งสถานที่ที่มีน่าสนใจอยู่ไม่น้อยที่เราจะพาคุณไปท่องเที่ยวกันในครั้งนี้ก็คือ น้ำพุร้อนอุนเซน (雲仙地獄) สำหรับน้ำพุร้อนแห่งนี้ได้ตั้งอยู่ที่คาบสมุทรชิมาบาระ หรือที่ใครหลายคนทราบกันดีว่าทางทิศตะวันออกของเมืองนางาซากิ สำหรับสถานที่แห่งนี้มีน้ำพุร้อนในอุณหภูมิที่ร้อนมาก ซึ่งเป็นบ่อที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเป็นน้ำร้อนที่มาจากใต้ดิน อีกทั้งบริเวณรอบๆยังมีกลิ่นของกำมะถันที่ส่งกลิ่นให้เราได้รับรู้อย่างชัดเจน แต่ก็มีทัศนียภาพที่งดงามเหนือคำบรรยายจนไม่อยากให้คุณต้องพลาดหากไม่ไปจังหวัดแห่งนี้
เมื่อคืนได้ไปเยือนคุณจะได้เห็นถึงความงดงามของพืชพรรณนานาชนิดที่รายล้อม พร้อมกับกดหินสวยงามที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและกลิ่นอายของน้ำพุร้อน ที่จะช่วยฟื้นฟูจิตใจและสุขภาพร่างกายที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางมาได้เป็นอย่างดี มีความงดงามในทุกๆฤดูกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณไปเยี่ยมเยือนบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง คุณก็จะสามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีท่ามกลางบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติกเลยทีเดียว
3.สะพานแว่นตา (眼鏡橋/めがね橋)
มาต่อกันที่ สะพานแว่นตา (眼鏡橋/めがね橋) สำหรับสถานที่แห่งนี้มีลักษณะเป็นสะพานหินที่มองจากมุมไกลๆก็จะดูเหมือนว่ามีรูปทรงคล้ายกับแว่นตาทรงกลมของ harry potter ยังบอกไม่ถูก เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่ใครหลายคนเมื่อมาถึงเมืองนางาซากิก็จะต้องมาถ่ายรูปคู่ ซึ่งในบริเวณรอบรอบนั้นมีสวนโกรฟเวอร์ที่ถูกจัดอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยอีกครั้งมีหินหลากหลายรูปทรงทั้งรูปสี่เหลี่ยมและรูปหัวใจวางอยู่ริมขอบแม่น้ำตามภาพด้านบนที่เรานำมาฝากนี้ อีกทั้งตึกรามบ้านช่องในย่านสะพานแว่นตาแห่งนี้ ก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นเมืองนางาซากิแบบดั้งเดิมเอาไว้ให้เราได้ชมกันอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งย่านที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและบรรดาชาวต่างชาติสูง อีกทั้งยังมีบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติกให้คุณได้สัมผัสอีกด้วย
4.สวนโกลฟเวอร์ (グラバー園)
จะพาคุณมาต่อกัน สวนโกลฟเวอร์ (グラバー園) สำหรับสถานที่แห่งนี้ถูกตั้งอยู่ในบ้านของพ่อค้าชาวสกอตแลนด์ที่ชื่อ Thomas Blake Glover เขาคือพ่อค้าที่เดินทางมาค้าขายในเมืองนางาซากิตั้งแต่ในช่วงยุคสมัยเมจิ และได้สร้างสวน สร้างอาคารบ้านช่องในสไตล์ยุโรปเอาไว้อย่างมากมายซึ่งหากคุณได้ไปสัมผัสกับสถานที่แห่งนี้คุณจะพบเจอกับก้อนหินที่เป็นรูปหัวใจสุดๆซ่อนอยู่ตามโขดหินที่เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม บรรยากาศของที่แห่งนี้เรียกว่ามีความโรแมนติกในสไตล์ยุโรป ยิ่งหากคุณได้มายืนในช่วงเดือนกรกฎาคมไปจนถึงเดือนตุลาคมนั้นยามค่ำคืนก็จะมีการประดับไฟเพื่อให้คุณได้ชมทัศนียภาพอันงดงามด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจและน่าเช็คอินอีก 1 แห่งในจังหวัดนางาซากิ ที่เราไม่อยากให้คุณพลาด
5.สวนสันติภาพนางาซากิ (平和公園)
สำหรับสถานที่อีกหนึ่งแห่งที่เราจะพาคุณไปรู้จักกันก็คือ สวนสันติภาพนางาซากิ (平和公園) ซึ่งได้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ในช่วงหลังสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สร้างขึ้นเพื่อให้เป็นอนุสรณ์ให้คนรุ่นหลังได้รำลึกถึงบรรพชนชาวญี่ปุ่นและได้รำลึกถึงความโหดร้ายที่สร้างความโศกเศร้าในช่วงสงครามครั้งนั้น จุดเด่นของสถานที่แห่งนี้เมื่อเราไปถึงเราจะพบกับรูปปั้นขนาดใหญ่ที่มีอิริยาบถตามภาพด้านบนที่เรานำมาฝาก ซึ่งมีความหมายที่แฝงเอาไว้ในท่าทางเหล่านี้ก็คือ มือขวาที่แสดงสัญลักษณ์ชี้ขึ้นไปบนฟ้าก็คือระเบิดปรมาณู และมือซ้ายที่ผายออกไปด้านข้างนั้นก็หมายถึงสัญลักษณ์ของสันติภาพนั่นเอง อีกทั้งสวนแห่งนี้ยังไงน้องไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าและพืชพรรณนานาชนิด ที่สร้างความร่มรื่นให้กลับผู้คนที่เข้าไปเยี่ยมเยือนได้เป็นอย่างดีในบรรยากาศของความเงียบสงบที่เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างยิ่ง ซึ่งหากคุณเหนื่อยล้าจากการเดินทางก็สามารถแวะเข้าไปพักผ่อนในสวนแห่งนี้ได้ พร้อมทั้งชื่นชมทัศนียภาพและสัมผัสกับกลิ่นอายของความเก่าแก่นี้ได้
6.ภูเขาอินาสะ (Mount Inasa)
และเราจะพาคุณมาปิดท้ายกับสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเลย หากได้มีโอกาสไปเยือนเมืองนางาซากิซึ่งก็คือ ภูเขาอินาสะ (Mount Inasa) สำหรับภูเขาแห่งนี้ต้องขอบอกเลยว่ามีความสูงมากซึ่งมากถึง 333 เมตร อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองของจังหวัดนางาซากิ เป็นจุดชมวิวที่สำคัญของจังหวัดแห่งนี้อีกทั้งยังติดอันดับ 1 ใน 3 จุดชมวิวยามค่ำคืนที่สวยที่สุดของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย จึงทำให้ผู้คนทั่วทุกมุมโลกต่างอยากได้มาสัมผัสกับบรรยากาศในสถานที่แห่งนี้
หากคุณต้องการขึ้นไปชมวิวบนภูเขาสูงแห่งนี้ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากนัก เพราะที่นี่มีบริการกระเช้าไฟฟ้าโดยที่เราไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินขึ้นเขา และหากคุณได้ไปยืนบนจุดชมวิวแล้วล่ะก็ คุณจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของจังหวัดนางาซากิได้แบบ 360 องศากันเลยทีเดียว ซึ่งสามารถมองเห็นได้แม้กระทั่งท่าเรือและอ่าวนางาซากิได้อย่างชัดเจน รวมทั้งภูเขาที่รายล้อมเมืองแห่งนี้ได้อย่างงดงามด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดในการมาเยี่ยมชมเลยจริงๆ
ได้พาคุณไปรู้จักกับจังหวัดนางาซากิและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆกันมากยิ่งขึ้นแล้ว กับเรื่องราวของ 6 สถานที่ท่องเที่ยวสุดชิลล์ของจังหวัดนางาซากิ ที่ควรต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง ! ที่เราได้นำมาบอกเล่ากันไปเมื่อสักครู่นี้ อย่างไรก็ตามพวกเราทีมงานหวังอย่างยิ่งว่าจะทำให้คุณผู้อ่านชื่นชอบและถูกใจ พร้อมทั้งทราบพิกัดของสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดนางาซากิมากขึ้น แล้วกลับมาพบกับพวกเราได้ใหม่ในครั้งต่อไป สำหรับครั้งนี้ต้องขออนุญาตลากันไปแต่เพียงเท่านี้ หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยอย่างสูงและขอขอบคุณสำหรับการติดตามอย่างเสมอมา
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> ไฮโลไทย