ปราสาท เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกที่หนึ่ง ที่เมื่อมาญี่ปุ่นแล้วไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง ปราสาทของญี่ปุ่นนั้น มีอยู่เยอะแยะมากมายกระจายอยู่ทั่วไปตามภูมิภาคต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่น แต่วันนี้ผมจะมาแนะนำปราสาทที่ได้ชื่อว่า สวยติดอันดับ “1 ใน 3 ปราสาท” ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ปราสาทที่ว่านั้นก็คือ “ปราสาทฮิเมจิ” นั่นเองครับ
ปราสาทฮิเมจิ หรือ ที่เรียกกันอีกชื่อนึงคือ “ปราสาทนกกระสาขาว” ตั้งอยู่ที่เมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ ภูมิภาคคันไซ เป็นปราสาทที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติของชาติ และยังเป็นปราสาทแรกของประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้เมื่อปี 1993 อีกด้วย ด้วยหลายเหตุผลที่ว่า มีความเก่าแก่ มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม และมีความสมบูรณ์มากๆ
ปราสาทฮิเมจินั้น ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1346 ตามคำสั่งของ อากามัตสึ ซาดาโนริ หลังจากนั้นก็เปลี่ยนผู้สืบทอดเรื่อยมา ระหว่างนั้นตัวปราสาทก็ได้มีการสร้างต่อเติมขึ้นมาเรื่อยๆ จนรูปลักษณ์ของปราสาทค่อยๆมีการเปลี่ยนไปจากแบบเดิม ซึ่งรูปแบบในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นในปี 1609 โดย อิเกดะ เทรุมาสะ ผู้สืบทอดปราสาทรุ่นที่ 4 ต่อมาปี 1945 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองฮิเมจิถูกโจมตีทางอากาศ แต่ปราสาทฮิเมจินั้นกลับรอดจากการถูกทิ้งระเบิดมาได้อย่างปาฏิหารย์! หลังจากนั้นก็ได้มีการซ่อมแซมบูรณะครั้งใหญ่ในรอบ 400 ปี และตัวปราสาทก็คงอยู่มาจนถึงปัจจุบันอย่างที่เราได้เห็นกันครับ
จากถนนเข้ามาในเขตของปราสาท บริเวณทางเดินทั้งสองฝากฝั่งเต็มไปด้วยต้นซะกุระที่มีมากกว่า 1,000 ต้น ในช่วงฤดูใบไม้ผลินั้น ที่ปราสาทฮิเมจิก็จะมีการจัดเทศกาลชมซะกุระด้วย ซึ่งที่ปราสาทฮิเมจินั้นติดอันดับ 100 จุดชมซะกุระที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย ส่วนใครที่มาเที่ยวในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็มีทีเด็ดเหมือนกันครับ เพราะนอกจากที่บริเวณปราสาทจะมีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว ใกล้ๆ กับปราสาทนั้นยังมีสวน “โคโคะเอ็น” ที่อยู่ติดกลับปราสาทฮิเมจิอีกด้วย ที่นี่เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม และในช่วงกลางคืนนั้นยังมีการจัดไลท์อัพ เราจะได้เห็นใบเมเปิ้ลที่ถูกสาดแสงใส่สวยงามและมีพื้นหลังเป็นปราสาทฮิเมจิอีกด้วยครับ
ที่ด้านหน้าปราสาทนั้นเป็นลานดินๆกว้าง เมื่อเราเดินผ่านเข้ามาจะพบกับร้านขายของที่ระลึกและจุดขายตั๋ว ค่าเข้าชมมี 2 แบบครับ แบบแรกเข้าชมปราสาทฮิเมจิอย่างเดียว ผู้ใหญ่ 1,000¥ เด็ก 300¥ และแบบที่ 2 คือ ปราสาทฮิเมจิ+สวนโคโคะเอ็น 1,040¥ ถ้าใครพอมีเวลา ผมแนะนำว่าให้ซื้อแบบเข้าชมสวนโคโคะเอ็นด้วยครับ เพราะด้านในสวนสวยมากครับ พอเข้าประตูกำแพงมาแล้ว เราจะรู้เลยว่า สมัยก่อนนั้น การจะตีปราสาทๆ นึงให้แตกได้นั้น ถือว่ายากมากจริงๆ เพราะเข้าประตูมาแล้วไม่ใช่ว่าจะถึงตัวปราสาทเลย เราจะต้องเดินผ่านช่องกำแพงหินที่เป็นทางเดินแคบๆ สลับซับซ้อนเข้าไปอีกตั้งหลายชั้นแน่ะครับ
การเดินชมปราสาท จะเป็นการบังคับเดินทางเดียว และจะมีช่วงที่เป็นบันได การจราจรจะติดขัดนิดนึงครับ เพราะว่าบันไดในตัวปราสาทนั้นค่อนข้างเล็กมาก และที่ชั้นบนสุด จะต้องผลัดกันขึ้น และลง ดังนั้นการเที่ยวที่ปราสาทฮิเมจิควรจะเผื่อเวลาไว้บ้างก็ดีครับ ภายในตัวปราสาทมีการจัดแสดงสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับปราสาทไว้มากมาย เช่น วัสดุที่ใช้สร้างปราสาท ประวัติความเป็นมา ชุดเกราะซามูไร อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ทำสงครามในสมัยก่อนฯลฯ ในส่วนของชั้นบนสุดเราสามารถมองเห็นวิวเมืองฮิเมจิได้รอบเลยครับ แต่ตอนถ่ายรูปอาจจะไม่ค่อยสะดวกมากนัก เพราะเขาติดตะแกรงลวดไว้เพื่อความปลอดภัย
สำหรับการเดินทางมาที่ปราสาทฮิเมจินั้นเรียกได้ว่าสะดวกมากๆ เลยครับ จากเมืองโอซาก้านั่งรถไฟตรงมาที่ฮิเมจิได้เลย ถ้านั่งชินคังเซน ก็ใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น แต่ถ้านั่งรถไฟธรรมดาก็ประมาณ 1 ชั่วโมงครับ เมื่อมาถึงที่สถานี Himeji แล้ว การเดินทางไปที่ปราสาทมีให้เลือกหลายวิธีเลยครับ สำหรับใครที่รักการเดิน จากสถานีก็สามารถเดินไปได้ครับ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เดินไป คุยกับเพื่อนไป แปบๆ ก็ถึงละครับ ถ้าไม่สะดวกที่จะเดิน มาที่หน้าสถานีก็สามารถขึ้นรถประจำทางไปได้เช่นกันครับ ค่าโดยสารเพียง 100¥ เท่านั้นครับ และทางสุดท้ายไปโดยแท็กซี่ครับ ค่าโดยสารจะตกอยู่ราวๆ 700-1,000¥ ครับ
ผมอยากจะบอกว่า ปราสาทฮิเมจิในรูปว่าสวยแล้วนะครับ ของจริงนั้น สวยกว่ามากๆ ครับ ทั้งสวย ทั้งใหญ่ อลังการมาก จนผมรู้สึกทึ่งในฝีมือของคนสมัยก่อนจริงๆ ที่สามารถสรรค์สร้างปราสาทที่ยิ่งใหญ่ และสวยงามขนาดนี้ขึ้นมาได้ และที่สำคัญคือ เวลาผ่านไปหลายร้อยปีแล้วปราสาทก็ยังคงอยู่มาถึงปัจจุบัน หากใครที่ยังไม่เคยมาเที่ยวที่ปราสาทฮิเมจิแล้วล่ะก็ ขอแนะนำตรงนี้เลยว่า “มาด่วน!”
เครดิตรูป https://matcha-jp.com/en/3872