ในอดีตการฝึกศิลปะป้องกันตัว คือการลับคมมีดให้กับตัวเอง เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเพื่อเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับศึกสงคราม และสถานที่ฝึกซ้อมฝีมือ หรือ โรงฝึกนั้น ปัจจุบันก็ยังมีการสืบทอดมาอยู่ อย่างเช่นในบริเวณพื้นที่ของปราสาทโอซาก้า ก็มี Osaka Shudokan ด้วยเช่นกันครับ
เครดิตรูป https://goo.gl/maps/iP7URcCfKurXsftAA
เครดิตรูป https://goo.gl/maps/iP7URcCfKurXsftAA
เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ศิลปะป้องกันตัว เปลี่ยนเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งที่นอกจากจะเอาไว้ใช้ป้องกันตัวได้แล้ว ยังสามารถใช้เป็นการออกกำลังกายได้อย่างดีอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นเหมือนกับเกมส์กีฬา โดยมีการจัดการแข่งขันกันเกี่ยวกับศิลปะป้องกันตัวทั้งในระดับโรงเรียน ไปจนถึงระดับโลกอีกด้วย
เครดิตรูป https://goo.gl/maps/iP7URcCfKurXsftAA
เครดิตรูป https://goo.gl/maps/iP7URcCfKurXsftAA
ในประเทศญี่ปุ่นก็มีการสืบทอดศิลปะป้องกันตัวต่อๆ กันมาจากอดีต รวมไปถึงสถานที่ฝึกซ้อมที่เรียกว่า “โรงฝึก” อีกด้วย ที่เมืองโอซาก้า ในบริเวณของพื้นที่ของปราสาทโอซาก้า มีโรงฝึกอยู่แห่งหนึ่งชื่อว่า “Shudokan” เป็นที่ๆ ใช้ฝึกซ้อมศิลปะป้องกันตัวหลายแขนง อาทิเช่น เคนโด้ ไอคิโด้ คาราเต้ ยูโด หรือแม้แต่ คิวโด(การยิงธนูญี่ปุ่น) ก็มีครับ ชื่อ “ชูโดกัง” ถูกตั้งขึ้นโดยนายกเทศมนตรี นาคาอิ ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในสมัยนั้น โดยท่านหวังว่า โรงฝึกแห่งนี้จะเป็นจุดศูนย์รวมของหนุ่มสาววัยรุ่นยุคใหม่ที่หลงใหลในการฝึกศิลปะการต่อสู้และมีวิถีการฝึกที่ดี คือ มีการฝึกฝนทั้งร่างกายและจิตใจให้เข้มแข็งอยู่เสมอ
เครดิตรูป https://goo.gl/maps/iP7URcCfKurXsftAA
เครดิตรูป https://goo.gl/maps/iP7URcCfKurXsftAA
โรงฝึกชูโดกัง เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ปี 1958 เนื่องมาจากว่า โรงเรียนตำรวจในเขตคินกิ ที่อยู่ในพื้นที่ของปราสาทโอซาก้านิโนมารุและนิชิมารุจะถูกย้ายไปที่ใหม่ในเมืองซาไก จึงจำเป็นที่จะต้องรื้อถอนโรงฝึกเก่าที่อยู่ในนิชิมารุออกไปด้วย ทำให้ผู้ฝึกยูโดและเคนโด้ไม่มีโรงฝึกที่จะใช้ฝึกอีกต่อไป จึงเกิดการร้องเรียนไปยังเจ้าหน้าที่และกระจายข่าวให้ประชาชนในเมืองโอซาก้าทราบถึงปัญหานี้ หลังจากที่ได้มีการประชุมกับหลายๆ ฝ่าย จึงมีการลงมติว่า จะสร้างโรงฝึกหลังใหม่ขึ้นภายในพื้นของปราสาทโอซาก้า จึงได้มีการจัดตั้ง “คณะกรรมการด้านการก่อสร้างของเทศบาลเมืองโอซาก้าบูโดไคคัง” ขึ้นมา และเริ่มเรี่ยไรเงินบริจาคจากชาวเมืองโอซาก้า
เครดิตรูป https://goo.gl/maps/iP7URcCfKurXsftAA
เครดิตรูป https://goo.gl/maps/iP7URcCfKurXsftAA
ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของชาวเมืองโอซาก้า จึงได้เงินบริจาคมาทั้งหมด 60 ล้านเยน ทางสมาคมศิลปะการต่อสู้ก็บริจาคร่วมอีก 60 ล้านเยน จึงมีงบในการก่อสร้างทั้งสิ้น 120 ล้านเยน ใช้เวลาก่อสร้างทั้งหมด 10 เดือน แล้วเสร็จในวันที่ 8 ธันวาคมปี 1958 แต่เปิดให้ใช้จริง ในวันที่ 4 มกราคม ปี 1959 โดยจุดประสงค์ของการก่อตั้งโรงฝึกแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อใช้เป็นโรงฝึกใหม่แทนโรงฝึกที่นิชิมารุ และต้องการเผยแพร่ส่งเสริมการฝึกฝนศิลปะป้องกันตัวทั้งของญี่ปุ่นและของต่างประเทศ นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมให้เยาวชนและผู้คนที่สนใจได้มีการฝึกฝนศิลปะป้องกันตัวอย่างถูกต้องถูกวิธีอีกด้วย
เครดิตรูป https://goo.gl/maps/iP7URcCfKurXsftAA
เครดิตรูป https://goo.gl/maps/iP7URcCfKurXsftAA
นอกจากจะใช้เป็นที่ฝึกแล้วในบางครั้งโรงฝึกชูโดกังก็ถูกใช้เป็นที่จัดการแข่งขันด้วยครับ สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ สามารถไปด้อมๆ มองๆ แถวๆ ด้านหน้าโรงฝึก ได้ครับ ขอแค่อย่าไปส่งเสียงดังจนรบกวนการฝึกของเขาก็พอ สำหรับการเดินทางมาเที่ยวที่โรงฝึกนั้นทำได้ไม่ยากเลยครับ เพียงนั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี สถานี Morinomiya หรือ ลงที่สถานี Tanimachi4-chome จากนั้นเดินต่อไปเข้าไปในเขตของปราสาทโอซาก้าอีก 5–10 นาที ก็ถึงละครับ
เครดิตรูป https://goo.gl/maps/iP7URcCfKurXsftAA
เครดิตรูป https://goo.gl/maps/iP7URcCfKurXsftAA
นอกจากจะมาเที่ยวชมโรงฝึกแล้ว บริเวณรอบๆ ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมายครับ ไม่ว่าจะเป็นปราสาทโอซาก้า ศาลเจ้าโฮโกกุ สวนนิชิโนมารุ และพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์นานาชาติเพื่อสันติ บอกได้เลยว่าที่นี่ที่เดียว สามารถอยู่ได้ทั้งวันเลยครับ
เครดิตรูป https://goo.gl/maps/iP7URcCfKurXsftAA
เครดิตรูป https://goo.gl/maps/iP7URcCfKurXsftAA
Osaka Shudokan คือโรงฝึกที่เป็นดั่งมรดกของคนรุ่นก่อน ที่ส่งต่อมาให้กับรุ่นลูกรุ่นหลานได้ใช้ฝึก ได้เป็นที่ศึกษา ได้เป็นที่พบปะผู้คน แถมยังเป็นที่สำหรับสืบทอดศิลปะป้องกันตัวอีกด้วย ในประเทศญี่ปุ่นนอกจากที่โรงฝึกชูโดกังแล้ว ก็ยังมีโรงฝึกอื่นๆ อีกมากมายเลยครับเพียงแต่ว่าเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล เราไม่สามารถเข้าไปได้ ดังนั้นถ้าใครอยากจะเห็น อยากจะสัมผัสกับโรงฝึกด้วยตัวคุณเอง ขอแนะนำให้มาที่โรงฝึกชูโดกังได้เลยครับ