เวลาหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น เรามักจะเห็นข้อมูลตามเพจที่เขียนประมาณว่า “3 อันดับที่สวยที่สุด” “ 5 อันดับที่อร่อยที่สุด” หรือ “10 อันดับที่น่าเที่ยวที่สุด” จนบางครั้งผมก็ อดสงสัยไม่ได้ว่า ประเทศญี่ปุ่นนี่เค้าขยันกันจัดอันดับกันจริงๆ โน่นก็จัดอันดับ นี่ก็จัดอันดับ แม้แต่สะพานก็ยังจัดอันดับ อย่างวันนี้ผมก็จะพาไปเที่ยวกันที่ 1 ใน 3 สะพาน ที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น “สะพานชินเคียว” นั่นเองครับ
สะพานชินเคียวนั้นตั้งอยู่ในเมืองนิกโก้ จังหวัดโทชิงิ เป็นสะพานที่สร้างไว้เพื่อข้ามแม่น้ำไดยะกาว่า เพื่อไปยังศาลเจ้าฟุตะระซัน ซึ่งสะพานนี้นอกจากชื่อชินเคียวแล้ว ก็ยังมีอีกชื่อนึงคือ “สะพานอสรพิษคู่” ซึ่งมีตำนานเล่าขานต่อๆ กันมาว่า ในช่วงปลายของสมัยนารา ได้มีกลุ่มนักบวชนำโดยท่านโชโด และ บรรดาลูกศิษย์เดินทางมาถึงริมแม่น้ำไดยะ ท่านต้องการที่จะข้ามแม่น้ำเพื่อที่จะขึ้นไปสักการะศาลเจ้าฟุตะระซัน ที่อยู่บนเขา แต่บริเวณนี้มีลักษณะเป็นร่องน้ำลึก กึ่งๆ หน้าผา แถมน้ำในแม่น้ำก็ไหลเชี่ยวอีกด้วยท่านและบรรดาลูกศิษย์จึงไม่สามารถที่จะข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามได้ แต่แล้วก็มีเทพองค์หนึ่งมีชื่อว่า เทพเจ้า จินยะ ไดโยะ ได้เข้ามาช่วยเหลือท่านด้วยการเสกให้งูสองตัวกลายเป็นสะพาน ท่านโชโดและลูกศิษย์จึงข้ามแม่น้ำไปได้ นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อสะพานอสรพิษคู่นั่นเองครับ
สะพานชินเคียวนั้นสร้างขึ้นมาจากไม้และทาเคลือบด้วยยางไม้สีแดง มีเสาหินเป็นตัวรับน้ำหนักอยู่ทั้งสองฝั่ง ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำไดยะกาว่า ตัวสะพานมีความยาวทั้งสิ้น 28 เมตร กว้าง 7 เมตร และสูง 10 เมตร ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1636 ซึ่งหลังจากนั้นในช่วงปี 1902 ได้เกิดน้ำป่าไหลหลาก กระแสน้ำเชี่ยวกราก ทำให้สะพานพังลง และมีการซ่อมแซมในภายหลังในช่วงปี 1904
สะพานชินเคียวขึ้นชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 สะพานที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่นซึ่งอีกสองที่ก็คือ สะพานคินไตเคียว อยู่ที่เมืองอิวะคุนิ จังหวัดยามางุจิ และ สะพานซารุฮาชิ ที่เมืองโอสึกิ จังหวัดยามานาชิครับ ในตอนแรกที่ยังไม่เคยไปเที่ยวที่สะพานชินเคียว ผมแอบสงสัยในใจทำไมถึงติดอันดับสะพานที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นได้นะ ที่ญี่ปุ่นสะพานโบราณก็มีตั้งเยอะ ตั้งแยะ จะสวยอะไรขนาดนั้น เพระตอนนั้นเคยเห็นแค่ในรูป ก็คิดว่าเขาอาจจะมีการแต่งรูปเพื่อใช้ในการโปรโมท มันเลยทำให้สวยเกินจริง
แต่พอมีโอกาสได้ไปเห็นของจริงเท่านั้นล่ะครับ ยืนตะลึงได้แต่คิดในใจว่า เฮ้ย! สวยจริงๆ ตัวสะพานเป็นสะพานไม้แบบญี่ปุ่นโบราณสีแดงสด มีแม่น้ำไดยะที่เป็นสีเขียวไหลเชี่ยวอยู่ด้านล่าง หน้าผาหินและต้นไม้ สวยอย่างกับภาพวาดที่วาดขึ้นมาจากจินตนาการเลยครับ และ ถ้ามาเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ราวๆ กลางเดือนพฤศจิกายนแล้วล่ะก็ ในช่วงนั้นสะพานชินเคียวจะเป็นช่วงที่สวยที่สุดเลยครับ เพราะป่าไม้ที่เป็นฉากหลังนั้น จากที่เป็นสีเขียว ก็จะเปลี่ยนเป็นสีส้ม สีแดง ตัดกับสีสะพานที่สีแดงเด่นกับสีน้ำเขียวเข้มด้านล่าง นี่คือสวรรค์ชัดๆ สมแล้วที่ถูกเรียกว่าสะพานที่ใช้ข้ามไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์
แต่ถ้าใครที่มาเที่ยวในฤดูอื่นก็ไม่ต้องตกใจไปครับ ในฤดูอื่นนั้นสะพานชินเคียว ก็ยังสวยและมีเสน่ห์แตกต่างกันออกไปตามแต่ละฤดู ยกตัวอย่างเช่นในฤดูหนาวบริเวณนี้และตัวสะพานจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว ต้นไม้ที่อยู่บนภูเขาก็จะผลัดใบออกหมด เหลือแต่ลำต้นและกิ่งที่เป็นสีน้ำตาล ทำให้ตัวสะพานเป็นสีแดงเข้มดูเด่นขึ้นมาอย่างชัดเจน สวยไปอีกแบบครับ
ปัจจุบันนี้สะพานชินเคียว ไม่สามารถข้ามได้นะครับ เพราะเค้าปิดทางออกอีกฝั่งไว้อยู่ แต่เราสามารถขึ้นไปถ่ายรูปบนสะพานได้ โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ ผู้ใหญ่ 300¥ นักเรียนมัธยมปลาย 200¥ และ นักเรียนชั้นประถมและมัธยมต้น 100¥ ซึ่งเมื่อขึ้นไปถ่ายรูปบนสะพานเสร็จแล้วตอนกลับ เราก็ต้องเดินกลับมาทางเดิมครับ
การเดินทางมาเที่ยวที่สะพานชินเคียวนั้น จากสถานีรถไฟ JR Nikko สามารถเดินมาได้ครับระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร หรือขึ้นรถบัส ที่หน้าสถานี Tobu-Nikko จุดขึ้นรถ 2B มาลงที่ป้าย Shinkyo ได้เลยครับ
สำหรับสะพานชินเคียวนั้น เห็นในรูปว่าสวยมากแล้ว ของจริงสวยกว่ามากๆ ครับ และได้บรรยากาศมากกว่าด้วย ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมเล่ามานั้น จะจริง ไม่จริง อยากให้มาพิสูจน์กันด้วยตาตัวเองมากกว่าครับ เพราะผมก็พิสูจน์มากับตาของผมแล้ว …ว่าที่นี่ของจริง สวยจริง
เครดิตรูป https://th.tripadvisor.com