วันนี้เราจะมาพักกันที่ Asakusa Hotel Hatago กันครับ ข้อดีหลักๆ ของโรงแรมนี้เลยคือ ทำเลครับ ทำเลจัดว่าดีงาม การเดินทางไป-กลับจากสนามบินนั้นสะดวกมากๆ เพราะเราสามารถเดินทางจากสนามบินนาริตะด้วยรถไฟ Keisei Skyaccess ต่อเดียวมาลงที่สถานี Asakusa แล้วเดินมาที่โรงแรมเพียง 3-5 นาทีเท่านั้นเอง หรือ ถ้าเดินทางมาจากสนามบินฮาเนดะก็นั่งรถไฟสาย Keikyu Airport Line ต่อเดียวเหมือนกัน ประมาณ 50 นาทีครับ
สำหรับการเดินทางเที่ยวในตัวเมืองนั้น ก็ถือว่าสะดวกมากๆ ครับ ซึ่งจากโรงแรมเราสามารถเดินไปเที่ยววัดเซนโซจิโดยใช้เวลาเพียง 5-7 นาทีเท่านั้นเองครับ และสำหรับการเดินทางไปเที่ยวที่อื่นๆ ในโตเกียวนั้น ก็สะดวกไม่แพ้กันครับเพราะที่ตั้งของโรงแรมนั้นอยู่ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน 2 แห่งเลย อย่างที่แรกก็ Asakusa Station นั้น มีรถไฟใต้ดินสาย Asakusa Line กับ Ginza Line ที่สามารถเดินทางไปจุดสำคัญๆ ในโตเกียวได้ เช่น อุเอโนะ กินซ่า โอโมเตะซันโดะ และชิบุย่า กับอีกสถานีที่อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมคือ Kuramae Station ซึ่งจะมีรถไฟ 2 สายเชื่อมอยู่เช่นกัน คือ Asakusa Line และ Oedo Line ที่ใช้เดินทางไปย่านช็อปปิ้งชื่อดังอย่างชินจูกุ
ส่วนเรื่องปากท้องก็สบายหายห่วงเพราะที่นี่เขามีอาหารเช้าด้วยครับ แถมห้องอาหารก็ยังมีวิวสวยๆ อย่างหอคอยโตเกียวสกายทรี กับแม่น้ำสุมิดะให้ได้นั่งดูขณะทานอาหารเช้าอีกด้วย แต่เท่าที่ได้ยินเสียงเล่าอ้างมาว่า คนที่เคยเข้าพักเขาบ่นๆ กันว่าอาหารเช้าเหมือนจะได้น้อยไปหน่อย แต่เท่าที่ผมกิน ก็พออยู่ท้องอยู่นะ คือ ไม่ถึงกับอิ่มตื้อ แต่พอรองท้องเบาๆ ได้ แต่สำหรับบางคนอาจจะไม่อิ่ม ในส่วนของร้านสะดวกซื้อนั้น ขอบอกว่าอยู่แถวนี้สบายหายห่วง ใกล้ๆ โรงแรมประมาณ 150 เมตร มี Family Mart อยู่ครับ และถ้าใครไปเที่ยวกลับมามืดค่ำ ไม่ห่วงว่าจะไม่มีที่ฝากท้อง เพราะย่านนี้ในยามกลางคืนร้านอาหารก็มีเยอะอยู่ครับ
ทีนี้เรามาดูในส่วนของห้องพักกันบ้างดีกว่าครับ ซึ่งห้องพักที่นี่มีอยู่แค่ 2 แบบ หรือ ห้องเตียงเดี่ยวที่มีเตียงกว้างขนาด 120 เซนติเมตร และ ห้องแบบเตียงคู่ ซึ่งในจุดนี้ทางโรงแรมแจ้งมาก่อนเลยว่า ในส่วนของห้องเตียงเดี่ยวนั้น มันอาจจะคับแคบไปถ้าจะเข้าพักแบบ 2 คน เพราะว่าห้องขนาดค่อนข้างแคบแค่ 9 ตารางเมตรเท่านั้นเอง แต่ห้องเตียงคู่นั้นจะกว้างกว่านิดนึงโดยมีขนาดห้องอยู่ที่ 14 ตารางเมตร ภายในห้องนั้นตกแต่งแบบเรียบง่าย โทนสีขาว และครีมอ่อนๆ เป็นหลัก และทุกห้องห้ามสูบบุหรี่ครับ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโรงแรม ก็ปกติทั่วๆ ไป ครับ มีพนักงานต้อนรับทำงานตลอด 24 ชั่วโมง และมี Wifi Free แต่มีจุดนึงต้องขอติเลย คือ พวกอุปกรณ์อาบน้ำ เราต้องไปเบิกที่รีเซปชั่นทุกวัน ซึ่งตรงนี้ผมมองว่าไม่สะดวกมากๆ ทางโรมแรมควรจะปรับปรุงตรงนี้ด่วนเลย ในส่วนของห้องน้ำนั้นก็ค่อนข้างแคบ ถึงแม้จะมีอ่างอาบน้ำแต่ก็ค่อนข้างเล็ก คือ แค่พอแช่ได้ แต่ถ้าอยากจะเหยียดขาสบายๆ ขอบอกเลยเป็นไปไม่ได้ และยิ่งถ้าใครตัวสูงนี่นะ ผมว่าอึดอัดแน่นอนครับ
สำหรับคนที่เที่ยวแบบ Long Trip การซักผ้าระหว่างทริปนั้นก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นจะต้องทำ และที่นี่นั้นก็มีเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญด้วยครับ แต่ว่าไม่มีผงซักฟอกให้นะครับ เราจำเป็นต้องนำติดตัวมาเองครับ และอีกจุดนึงที่หลายๆ คนบ่นกัน คือ ที่นี่มีเครื่องซักผ้าเพียงเครื่องเดียว และก็เปิดให้ใช้ถึงแค่ 5 ทุ่มเท่านั้นเอง และถ้ามาไม่ทัน มีคนซักก่อนหน้า เราก็ต้องรอต่อไปเป็นชั่วโมงกว่าจะได้ซักครับ
สำหรับโรงแรม Asakusa Hotel Hatago นั้น อย่างที่บอกไปก็มีทั้งข้อดี และ ข้อเสีย ก็ถือซะว่าก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งละกันครับ เพราะเท่าที่ผมดู ถ้าเรามองข้ามข้อเสียไปได้แล้วเนี่ย โรงแรมนี้ถือว่าเป็นอีก 1 โรงแรมที่ทำเลสุดยอดมากๆ อันดับต้นๆ ในย่านอาซากุสะเลยก็ว่าได้ครับ
เครดิตรูป https://www.booking.com/hotel/jp/asakusa-hatago.th.html