ยุคสมัยนี้ การท่องเที่ยวได้เปิดกว้างขึ้น ผู้หญิงก็กล้าที่จะแบกเป้ออกเดินทางกันมากขึ้น ทั้งไปคนเดียว และ กับกลุ่มเพื่อนสาว ทำให้เกิดที่พักสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะขึ้นมาอย่างที่ Kaguya Asakusa Woman Only Guesthouse แห่งนี้นั่นเองครับ
อย่างแรกที่ต้องขอพูดถึงก่อนเลย จุดเด่นที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนก็คือ ที่นี่เขารับเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เป็นผู้หญิงครับ ตามชื่อของเขาเลย ซึ่งตรงจุดนี้ก็จะช่วยในเรื่องของความปลอดภัย และ เพิ่มความสบายใจให้แก่ผู้เข้าพักอีกด้วย อย่างที่อื่นเขาจะมีแยกส่วนชาย-หญิง หรือ อยู่กันแบบห้องใครห้องมัน แต่ในพื้นที่ส่วนกลางก็ต้องมีการใช้ร่วมกันอยู่ดี ดังนั้นในมุมมองของผู้หญิง การที่มีผู้ชายเดินไปเดินมาในที่พักของเรา กับ มีแต่ผู้หญิงล้วน ผมว่าอย่างหลังน่าจะโอเคกว่านะ โดยเฉพาะผู้หญิงที่เดินทางเที่ยวคนเดียวน่าจะรู้สึกอุ่นใจกว่า
ในส่วนของทำเลนั้นบอกเลยว่าดีมากๆ โดยเฉพาะในเรื่องของการเดินทางไป-กลับ จากสนามบิน เพราะ Kaguya Guesthouse นั้น ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ Asakusa ซึ่งห่างออกไปเพียง 100 เมตรเท่านั้น และการเดินทางไป-กลับจากสนามบิน สามารถขึ้นรถไฟของบริษัท Keisei ขบวน Narita Skyaccess ซึ่งเดินทางเพียงต่อเดียวเท่านั้น นั่งยาวๆ ชิลๆ กันไปเลย
หากต้องการที่จะเดินทางท่องเที่ยวภายในเมืองแล้วล่ะก็ ก็สะดวกอีกเช่นกัน เพราะที่สถานีรถไฟ Asakusa นั้น เป็นสถานีหลักขนาดใหญ่ ที่นอกจากจะมีรถไฟฟ้าแล้ว ก็ยังมีรถไฟใต้ดินผ่านถึง 2 สายเลยทีเดียว คือ สาย Ginza Line และ สาย Asakusa Line ซึ่งสามารถเดินทางไปเชื่อมกับสายอื่นๆ ได้อีก ดังนั้นเรื่องการเดินทางเที่ยวภายในเมืองนับว่าสบายใจหายห่วงได้เลย
สำหรับร้านค้าและร้านสะดวกซื้อนั้น จะมี 7-11 และ Family Mart อยู่ใกล้ๆ กับหน้าสถานี Asakua เลยครับ และสำหรับใครที่เป็นสายกิน สายช้อป ต้องถูกใจสิ่งนี้แน่นอน เพราะใกล้ๆ กับที่พักนั้น มีถนนช้อปปิ้งนาคามิเสะ ที่อยู่บริเวณหน้าวัดเซนโซจิ โดยตลอดสองฟากฝั่งจะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารมากมายกว่า 90 ร้าน แถมแต่ละร้านก็มีแต่ของขึ้นชื่อกันทั้งนั้น รับรองว่าทั้งถูกปาก และถูกใจอย่างแน่นอนครับ
ลองมาดูในส่วนของร้านอาหารกันบ้าง ในย่านอาซากุสะนั้นมีร้านอาหารอยู่นับร้อย แต่ใกล้ๆ กับที่พักมีร้านไคเซนด้ง ที่น่ากินมากๆ อยู่ร้านหนึ่ง ชื่อร้านว่า Mekiki no Gin ร้านนี้เขาเสิร์ฟไคเซนด้ง หรือ ข้าวหน้าอาหารทะเลสดๆ ซึ่งแต่ละหน้าน่ากินทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น แซลมอน หอยเม่น ปลาหมึก กุ้ง ไข่ปลา และอีกมากมาย ใกล้ๆ กันนั้นยังมีร้านอาหารสไตล์อิซากายะชื่อว่า BAL Anbai Asakusa ที่ร้านนี้จะเสิร์ฟอาหารทานเล่นเป็นหลัก อาทิเช่น อาหารเสียบไม้ย่าง ปลาดิบ ซูชิ ไก่ทอด เหมาะแก่การมานั่งทานไปดื่มไปแบบชิลๆ หลังจากเที่ยวเสร็จมากเลยครับ
สำหรับห้องพักที่ Kaguya Guesthouse นั้น จะถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ แบบห้องส่วนตัว และ ห้องรวม โดยขนาดห้องนั้นจะอยู่ที่ 16 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าไม่กว้าง แต่ก็ไม่แคบจนเกินไป อีกส่วนนึงคือเรื่องของห้องน้ำ ซึ่งที่ Kaguya Guesthouse นั้นจะเป็นห้องน้ำแบบใช้ร่วมกัน ดังนั้นตรงส่วนนี้สำหรับบางคนอาจจะไม่สะดวกได้ครับ แต่ถ้าไม่คิดอะไรมาก สามารถอยู่ได้ก็ถือว่าดีเลยครับ เพราะตรงส่วนนี้จึงทำให้ราคาห้องพักถือว่าค่อนข้างถูกมากเลยทีเดียว
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในที่พักก็ถือว่าค่อนข้างดีครับ ได้มาตรฐาน อาทิเช่น มีสัญญาณ Wifi ให้ฟรี แผนกต้อนรับบริการตลอด 24 ชั่วโมง และอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ ภายในห้องอาบน้ำ ซึ่งสำหรับเกสท์เฮาส์ที่เป็นห้องน้ำรวมโดยรวมก็ถือว่าครบถ้วนเท่าที่จำเป็นจะต้องมีแล้วครับ
Kaguya Asakusa Woman Only Guesthouse นับว่าเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงที่เดินทางเป็นกลุ่ม หรือ เดินทางคนเดียวนับว่าตอบโจทย์มากๆ แถมยังมีทำเลที่สุดยอด สะดวกในหลายๆ ด้านอีกด้วย สาวๆ ท่านไหนที่จะมาเที่ยวโตเกียว ลองเก็บไว้เป็นตัวเลือกดูได้ครับ