5 สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองซัปโปโร ที่น่าไปเยือนสักครั้งในปี 2022 !

ยังคงอยู่กันในประเทศญี่ปุ่นเช่นเคย ได้พาคุณไปท่องเที่ยวกันมาหลายจังหวัดแล้ว ซึ่งในครั้งนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 5 สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองซัปโปโร ที่น่าไปเยือนสักครั้งในปี 2022 ! บ้าง สำหรับสิ่งที่เราได้นำมาฝากคุณกันในครั้งนี้ก็คือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่อยู่ในฝั่งซัปโปโร ซึ่งแน่นอนว่าการท่องเที่ยวในฝั่งนี้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับในช่วงฤดูหนาว ที่มีหิมะสีขาวร่วงหล่นปกคลุมตามพื้นที่ต่างๆทำให้เราสามารถเก็บภาพประทับใจได้เป็นอย่างดี และสถานที่สุดฟินเหล่านั้นจะมีที่ใดบ้าง หากอยากทราบกันแล้วต้องอย่ามัวแต่รอช้ารอ เราไปชมพร้อมๆกันได้เลยดังนี้ 1.สวนศิลปะ Sapporo Art Park จะพาคุณไปเริ่มต้นกันที่ สวนศิลปะ Sapporo Art Park ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่เหมาะสำหรับคนที่รักศิลปะอย่างมาก เพราะมีกิจกรรมต่างๆให้คุณเลือกทำอย่างมากมาย และสามารถทำร่วมกับครอบครัวได้อย่างลงตัวกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบ้านที่มีเด็กๆต้องขอบอกเลยว่าห้ามพลาด เพราะจะทำให้คุณและคุณหนูๆสามารถเพลิดเพลินกันได้ทั้งวันแบบไม่น่าเบื่อ เนื่องด้วยในสวนศิลปะแห่งนี้อุดมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆให้กับผู้เข้าชมอย่างมากมาย ซึ่งในศูนย์แห่งนี้ได้มีการจัดนิทรรศการศิลปะออกมาอย่างสม่ำเสมอและมีให้เข้าชมได้ในทุกฤดูกาล มีการนำความงามจากธรรมชาติของฮอกไกโดมาผสมผสานกับความเป็นศิลปะ ซึ่งคุณสามารถมองเห็นได้ตั้งแต่สิ่งปลูกสร้างของทางเข้า นอกจากจะมีทัศนียภาพที่สวยงามให้คุณได้ชื่นชมแล้วคุณยังสามารถสัมผัสกับบรรยากาศและอากาศดีๆของธรรมชาติได้อย่างเต็มอิ่มอีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่หากคุณมาเยือนเมืองซัปโปโรแล้วต้องไม่ควรพลาด และหากคุณกำลังต้องการไปสถานที่แห่งนี้ ก็สามารถเข้าชมข้อมูลของการเปิดให้บริการเพิ่มเติม ได้จากลิงค์ด้านล่างที่เรานำมาฝากกันได้เลย ข้อมูลเพิ่มเติมของ สวนศิลปะ Sapporo Art Park : https://artpark.or.jp/ 2. สวนสาธารณะมารุยาม่า Maruyama Park และอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความน่าสนใจของเมืองนี้ก็คือ สวนสาธารณะมารุยาม่า Maruyama Park ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่มีความสวยงามและอุดมไปด้วยธรรมชาติอย่างยิ่งมีชื่อเสียงโด่งดัง […]
ท่องเที่ยวเมืองธรรมชาติ สัมผัสบรรยากาศญี่ปุ่นแบบเดิมๆไปกับ 5 สถานที่สุดฟินในจังหวัดกิฟุ !

ยังคงอยู่กันในประเทศญี่ปุ่นเหมือนเช่นเคย ซึ่งในครั้งนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับอีกหนึ่งจังหวัดที่รายล้อมไปด้วยขุนเขาและ ท่องเที่ยวเมืองธรรมชาติ สัมผัสบรรยากาศญี่ปุ่นแบบเดิมๆไปกับ 5 สถานที่สุดฟินในจังหวัดกิฟุ ! ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีความเป็นเอกลักษณ์และวัฒนธรรมอันงดงาม พร้อมทั้งยังมีถานที่ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมรโลก จนทำให้ผู้คนทั่วโลกต่างอยากมีโอกาสได้มาสัมผัส และในครั้งนี้เราได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความเป็นธรรมชาติกันแบบสุดๆในจังหวัดกิฟุมาให้คุณได้ชมกัน หากอยากทราบแล้วว่าจะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้นเราไปชมพร้อมๆกันดีกว่า 1.แม่น้ำนางาระ ชมการประมงแบบอุไก จะพาคุณมาเริ่มต้นกันกับสถานที่สุดโบราณที่มรชื่อว่า แม่น้ำนางาระ ชมการประมงแบบอุไก ซึ่งจะพาคุณไปชมกับการหาปลาด้วยวิธีโบราณซึ่งเรียกกันว่า การประมงแบบอุไก ในแม่น้ำที่มีชื่อว่านางาระ ซึ่งเป็นแม่น้ำที่มีความเป็นมายาวนานมากกว่า 1300 ปี มีประเพณีดั้งเดิมในช่วงฤดูร้อน หากคุณได้ไปยังสถานที่แห่งนี้คุณจะสามารถนั่งเรือเพื่อชมวิวโดยเรือนี้จะแล่นเคียงคู่ไปกับเรืออุบุเนะ ที่คนพื้นเมืองมักจะใช้ในการหาปลากรือทำการประมงแบบอุไกนั่นเอง ซึ่งการประมงแบบอุไกนั้นจะเป็นการจับปลา ด้วยวิธีการนำนกกาน้ำที่เลี้ยงไว้มาใช้ในการจับปลา นักท่องเที่ยวที่มายังสถานที่แห่งนี้ก็จะได้พบเห็นวิธีทำการประมงแบบดั้งเดิมนี้ โดยได้ชมการแสดงการจับปลาแบบสดๆ มีการใช้ทั้งคบไฟสำหรับเป็นอุปกรณ์ในการหาปลา อีกทั้งยังมีเสียงโห่ร้องและวิธีการสื่อสารกับนกกาน้ำ เพื่อให้นกกาน้ำได้จัดการจับปลานั่นเอง ซึ่งเป็นวิธีโบราณที่มีอย่างยาวนานที่คนญี่ปุ่นใช้ในการทำประมงแบบไก และเราจะได้เห็นเทคนิคอันเก่าแก่นี้เมื่อได้ไปเยือนในสถานที่แห่งนี้ สำหรับการมาที่นี่ก็ใช้เวลาเพียงประมาณ 20 นาทีโดยการนังรถบัสจากสถานีรถไฟกิฟุ จากนั้นให้ลงที่สะพานสะพานนางาระ แล้วใช้เวลาเดินประมาณ 1 นาที ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.ukai-gifucity.jp/Ukai/ 2.ปราสาทกิฟุ (岐阜城) เราจะพาคุณมารู้จักกับอีกหนึ่งสถานที่ที่มีชื่อว่า ปราสาทกิฟุ (岐阜城) ในสมัยก่อนนั้นปราสาทแห่งนี้ได้มีชื่อเรียกว่า ปราสาทอินาบะยามะ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของ ไซโตะ โดซัง […]
5 ที่เที่ยวชิลล์ๆ ในเมืองกุมมะ เมืองแห่งขุนที่อยู่ไม่ไกลเมืองหลวง !

หากเอ่ยถึงสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติก็คงจะตอบกันไม่ถูกว่ามีจังหวัดไหนบ้าง เนื่องจากมีเต็มไปหมด แต่หากเอ่ยถามถึงเมืองธรรมชาติที่อยู่ใกล้กับกรุงโตเกียวเราจะต้องขอแนะนำทันทีว่าจังหวัดกุมมะนั่นเอง และในครั้งนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับ 5 ที่เที่ยวชิลล์ๆ ในเมืองกุมมะ เมืองแห่งขุนที่อยู่ไม่ไกลเมืองหลวง ! ซึ่งเราเชื่อว่าเรื่องราวที่เรากำลังจะนำมาฝากกันในครั้งนี้ จะต้องเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านที่กำลังมองหาสถานที่เที่ยว ที่มีความเป็นธรรมชาติและมีความเป็นส่วนตัวสูงที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองหลวงอย่างแน่นอน หากอยากทราบกันแล้วว่า ในเมืองกุมมะนั้นจะมีสถานที่ใดน่าสนใจกันบ้างเราไปชมพร้อมๆกันได้เลยดังนี้ 1.น้ำตกฟูคิวาเระ โนะ ทาคิ (Fukiware no taki) มารู้จักกับสถานที่แรกที่เราจะพาคุณไปรู้จักก็คือ น้ำตกฟูคิวาเระ โนะ ทาคิ (Fukiware no taki) ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่และมีชื่อเสียงโด่งดัง ซึ่งมีความยิ่งใหญ่อลังการมีความสุขมากถึง 7 เมตรและมีความกว้างมากถึง 30 เมตร อบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม ซึ่งคุณสามารถมองเห็นทัศนียภาพต่างๆซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงของสีสันไปตามฤดูกาลได้ตลอดทั้งปี ที่หากคุณมาเที่ยวในฤดูร้อนก็จะมองเห็นความสดชื่นของต้นไม้ใบหญ้าและดอกไม้ที่กำลังบานสะพรั่ง แต่หากคุณเดินทางมาเที่ยวในช่วงฤดูหนาว ก็จะเห็นต้นไม้ใบหญ้าเป็นสีขาวปนสีเงินสวยงามแบบเยือกเย็นตามแบบฤดูหนาว สถานที่แห่งนี้ได้รับสมญานามว่าเป็นน้ำตกไนแองการาของประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่มีความสำคัญและสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดกุมมะเลยก็ว่าได้ ซึ่งในแต่ละปีนั้นมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสถานที่แห่งนี้มากถึง 1 ล้านคน สำหรับการเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ คุณสามารถต่อรถบัสจากสถานีรถไฟ Numata โดยใช้เวลาเพียง 40 นาทีเท่านั้น 2.ชิมะออนเซ็น (Shima onsen) เราจะพาคุณไปต่อกันกับอีกหนึ่งสถานที่ ที่จะต้องถูกใจคนรักการแช่บ่อน้ำร้อนอย่างแน่นอนซึ่งก็คือ ชิมะออนเซ็น […]
7 สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ของจังหวัดโทยามะ ที่ต้องได้มาลองสัมผัสสักครั้งเมื่อมาเยือนญี่ปุ่น !

ยังคงอยู่ในประเทศญี่ปุ่นกันเช่นเคย ซึ่งในครั้งนี้เราจะพาคุณไปรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดโทยามะ โดยการรวบรวม 7 สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดโทยามะ ที่ต้องได้มาลองสัมผัสสักครั้งเมื่อมาเยือนญี่ปุ่น ! มาฝากคุณเอาไว้ที่นี่ในครั้งนี้ เพราะพวกเราเชื่อว่าจะเอามีประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่านที่กำลังมองหาที่เที่ยวในเมืองนี้กันอย่างแน่นอน ซึ่งแต่ละสถานที่ก็มีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะมีความน่าสนใจกันมากน้อยเพียงใดนั้นเราไปชมพร้อมๆกันได้เลยดังนี้ 1.กำแพงหิมะ เส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ เราจะพาคุณไปเริ่มต้นกันกับสถานที่ที่มีชื่อว่า กำแพงหิมะ เส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เรียกได้ว่าเปรียบเสมือนกับประตูทางเข้าไปสู่เทือกเขาทาเทยามะ ซึ่งหากคุณดูจากภาพด้านบนที่เราได้นำมาฝากก็จะเห็นถึงความยิ่งใหญ่และสง่างามที่ตั้งตระหง่าน สร้างความตระการตาให้กับนักท่องเที่ยวและผู้ที่เพิ่งเคยพบเห็นอย่างยิ่ง ซึ่งได้รับสมญานามให้เป็นเทือกเขาแอลป์แห่งทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในเมืองโทยามะนี้จะมีแม่น้ำมากถึง 7 สาย ที่จะมีการไหลจากทิศใต้ไปสู่ทิศเหนือ จึงถูกขนานนามให้เป็นเมืองหลวงแห่งน้ำ และนอกจากนี้ยังมีฉายาว่าเวนิสแห่งตะวันออกอีกด้วย สำหรับการเดินทางมาที่นี่ก็ไม่ยากเพียงคุณสามารถนั่งรถไฟชินคังเซ็นโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกับอีก 10 นาทีมายังเมืองโทรยามะ หากคุณได้มาท่องเที่ยวในจังหวัดแห่งนี้ในช่วงฤดูหนาว คุณจะพบเห็นทัศนียภาพที่สวยงามแบบเมืองหนาวซึ่งปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว จากในภาพที่มองดูก็อาจคิดว่าสวยแล้ว แต่หากได้มาชมของจริงด้วยตาตัวเอง จะต้องบรรยายถึงความสวยงามนี้กันไม่ถูกกันอย่างแน่นอน จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่านักท่องเที่ยวทั่วโลก จึงต่างอยากพากันมาชมความสวยงามของสถานที่แห่งนี้ 2. Fujiko・F・Fujio Gallery (藤子・F・不二雄ギャラリー) จะมาเอาใจคนรักโดราเอม่อนโดยการจะพาคุณไปรู้จักกับอีกหนึ่งสถานที่ที่มีชื่อว่า Fujiko・F・Fujio Gallery (藤子・F・不二雄ギャラリー) สำหรับสถานที่แห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นแกลลอรี่หรือพิพิธภัณฑ์ของโดราเอม่อนนั่นเอง ซึ่งภายในจะประกอบไปด้วยรูปภาพของโดราเอม่อนต่างๆรวมไปถึงรูปปั้นของชิสุกะโนบิตะและตัวละครที่อยู่ในการ์ตูนเรื่องโดราเอม่อนอีกมากมาย นอกจากจะได้ชมภาพและการ์ตูนต่างๆที่เกี่ยวกับโดราเอม่อนแล้ว ยังมีคาเฟ่น่ารักๆที่ขายเครื่องดื่มและอาหารเป็นรูปโดราเอม่อนอีกด้วย รวมไปถึงขนมก็ยังเป็นรูปโดราเอม่อนและโนบิตะรวมทั้งตัวละครต่างๆอีกด้วยเช่นกัน หากคุณเป็นแฟนโดราเอม่อนก็ต้องขอบอกเลยว่า คุณไม่ควรพลาดกับสถานที่แห่งนี้ 3.เขื่อนคุโรเบะ (黒部ダム) […]
รวมสุดยอดความฟินกับ 5 ออนเซ็นธรรมชาติ ของฝั่งเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น !

ขึ้นชื่อว่ามาประเทศญี่ปุ่นใครหลายคนคงจะต้องนึกถึงการแช่อองเซ็นในฤดูหนาวกันอย่างแน่นอน และหากได้มีโอกาสมาในช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะร่วงหล่นกันแล้วล่ะก็ ใครหลายคนคงจะต้องนึกถึงฮอกไกโดกันอย่างแน่นอน และในครั้งนี้เราจะมาพูดถึง รวมสุดยอดความฟินกับ 5 ออนเซ็นธรรมชาติ ของฝั่งเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ! ที่ได้รวบรวมข้อมูลมาฝากคุณกันไว้ที่นี่ เพื่อจะทำให้คุณได้ทราบถึงข้อมูลในการเดินทางได้ง่ายมากขึ้น พร้อมทั้งพิกัดของแต่ละสถานที่ที่เราจะพาคุณไปรู้จัก แบบไม่ต้องยุ่งยาก หากอยากทราบกันแล้วว่าแต่ละออนเซ็นที่เราจะพาคุณไปรู้จักกันในครั้งนี้ จะมีบรรยากาศที่สวยงามและฟินขนาดไหน อย่ามัวแต่รอช้ากันอยู่เลยค่ะ เราไปชมพร้อมๆกันเลยดีกว่า 1.ยูโนะคาวะ ออนเซน (Yunokawa Onsen) เราจะพาคุณมารู้จักกับออนเซนที่แรกที่เราได้นำมาฝากกันในครั้งนี้ซึ่งมีชื่อว่า ยูโนะคาวะ ออนเซน (Yunokawa Onsen) ที่ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองฮาโกดาเตะ สำหรับบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานเกือบ 400 ปี ถือเป็นออนเซนโบราณที่มีเอกลักษณ์อันชัดเจน มีมนต์ขลังที่ทำให้ใครต่อใครเมื่อได้มาแล้วต้องอยากมาซ้ำอีก ในช่วงใกล้จะสุดสิ้นฤดูร้อนของทุกปีจะมีการจัดการแสดงดอกไม้ไฟ โดยจะมีการแสดงความขอบคุณต่อเทพแห่งน้ำพุซึ่งผู้คนท้องถิ่นจะแห่ศาลมิโคะไปรอบๆบริเวณ จากนั้นก็จะมีการลอยโคมให้ลอยไปทางแม่น้ำ ซึ่งเป็นเทศกาลที่มีความงดงามอย่างยิ่ง ทำให้ท้องทะเลในยามค่ำคืนมีสีสันกว่าวันปกติได้มาก หากใครได้มีโอกาสมาเยือนในช่วงหน้าร้อนก็จะได้ชมความงดงามนี้ และอีกหนึ่งความพิเศษของออนเซนธรรมชาติที่นี่ก็คือ อุดมไปด้วยแร่ธาตุและคลอคลอไรต์ที่มีประโยชน์ต่อการนำมาบำบัดโรคไขข้อได้เป็นอย่างดี ถือเป็นออนเซนที่ความพิเศษมากเลยทีเดียว สำหรับการเดินทางมาที่นี่ก็ไม่ยาก เพียงนั่งรถบัสจากเมืองซัปโปโรโดยใช้เวลาไม่เกิน 5 ชั่วโมง หรือสามารถรถด่วนซูเปอร์-โฮคุโตะ ก็ได้ โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 20 นาทีในการเดินทางเท่านั้น ก็จะพาคุณมาถึงสถานที่แห่งนี้ได้แบบง่ายๆ 2.โทยาโกะ […]
7 สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปให้ได้ เมื่อมาถึงเมืองมิยางิ แห่งประเทศญี่ปุ่นแล้ว !

เมื่อเอ่ยถึงสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองมิยางิ ใครหลายคนอาจไม่ค่อยจะชินหูกับชื่อเมืองนี้กันเท่าไรนัก จึงทำให้ในครั้งนี้เราได้รวบรวมข้อมูลของ 7 สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปให้ได้ เมื่อมาถึงเมืองมิยางิ แห่งประเทศญี่ปุ่นแล้ว ! เพราะเราเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่าน ที่กำลังต้องการเดินทางท่องเที่ยวไปยังเมืองมิยางิ และมองหาจุดชมวิว แหล่งช้อปปิ้งรวมถึงแหล่งซื้อของฝากต่างๆ ซึ่งในครั้งนี้เราได้รวบรวมแต่ละสถานที่น่าสนใจมาฝากคุณกันไว้ที่นี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากต้องการทราบกันแล้วว่าจะมีสถานที่ใดที่น่าไปบ้าง ต้องอย่ารอช้า เราไปชมพร้อมๆกันได้เลยดังนี้ 1.ปากปล่องภูเขาไฟโอคามะ (御釜) จะพาคุณไปเริ่มต้นกันกับสถานที่แรก ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอันซีนของประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ กับสถานที่ที่มีชื่อว่า ปากปล่องภูเขาไฟโอคามะ (御釜) ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาซะโอะ มีทัศนียภาพที่สวยงามราวกับภาพวาด ด้วยสีเขียวมรกตที่ปรากฏอยู่ทางปากของปล่อง ซึ่งลักษณะของปล่องไฟนี้มีความคล้ายกับหม้อหุงข้าวของสมัยก่อนเป็นอย่างมาก จึงทำให้ปากปล่องนี้ถูกเรียกว่า โอคามะ ซึ่งมีความหมายว่าหม้อนั่นเอง ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้สามารถเปลี่ยนสีได้มากถึง5สี จึงทำให้ผู้คนและนักเดินทางทั่วโลกต่างให้ความสนใจ ในการเดินทางมาในสถานที่แห่งนี้เพื่อชมทัศนียภาพอันสวยงาม ที่เรียกได้ว่าเป็นอันซีนของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคุณสามารถเดินทางมาที่นี่โดยการขึ้นกระเช้าลอยฟ้า เพื่อขึ้นมายังจุดชมวิวได้แบบสบายๆ แต่ก็ควรมีการเตรียมตัวและแต่งตัวให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่หากได้มาเยือนเมืองมิยาหงิแล้วควรจะต้องได้มาซักครั้ง! 2.ปราสาทอาโอบะ (青葉城) เราจะพาคุณไปต่อกันที่ ปราสาทอาโอบะ (青葉城) ซึ่งหากคุณมาถึงสถานที่แห่งนี้แล้วจุดสังเกตง่ายๆก็คือ รูปปั้นอันโดดเด่นของท่านดาเตะ มะซะมุเนะ ที่ประดับอยู่ตรงกลางอนุสาวรีย์ท่านผู้คือสุดยอดซามูไรที่ได้นำความเจริญมาสู่เมืองเซนไดแห่งนี้ ซึ่งในสมัยก่อนบริเวณปราสาทเซนไดถือเป็นป้อมปราการที่ใช้สำหรับป้องกันข้าศึกได้เป็นอย่างดี ถ้าคุณได้มีโอกาสมาถึงสถานที่แห่งนี้ก็สามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ปราสาทอะโอบะ ได้ซึ่งภายในจะมีการเก็บข้าวของเครื่องใช้เก่าแก่ในสมัยเอโดะเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ดู พร้อมทั้งยังมีภาพยนตร์สั้นที่เกี่ยวกับปราสาทแห่งนี้ให้คุณได้ชมด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังมีจุดชมวิวที่ทำให้คุณสามารถมองเห็นเมืองเซนต์ไดได้ชัดเจนแบบ 360 องศากันเลยทีเดียว […]
ความเป็นมาของเทศกาลดอกไม้ไฟ พร้อมสถานที่จัดงานสุดอลังการณ์ของประเทศญี่ปุ่น!

ยังคงอยู่กันในประเทศญี่ปุ่นเช่นเคยและเมื่อฤดูกาลแห่งการชมดอกไม้ไฟมาถึง เราเชื่อว่าใครหลายคนจะต้องกำลังมองหาสถานที่ในการชมดอกไม้ไฟกันอยู่อย่างแน่นอน และจะดีแค่ไหนหากการได้จูงมือใครสักคนไปชมด้วยกัน ในครั้งนี้เราจึงได้รวบรวมเรื่องราวของ ความเป็นมาของเทศกาลดอกไม้ไฟ พร้อมสถานที่จัดงานสุดอลังการณ์ของประเทศญี่ปุ่น ! มาฝากคุณกันไว้ที่นี่เพราะเราเชื่อว่าจะต้องเป็นประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่านที่ต้องการทราบถึงรายละเอียดต่างๆ ของเทศกาลดอกไม้ไฟ รวมทั้งแหล่งชมดอกไม้ไฟที่สวยงามในประเทศญี่ปุ่นกันมากยิ่งขึ้น หากอยากทราบกันแล้วว่าจะมีความเป็นมาอย่างไร และแต่ละสถานที่ที่เรานำมาฝากนั้นจะน่าสนใจขนาดไหน ต้องอย่ารอช้าเราไปชมพร้อมๆกันได้เลยดังนี้ ความเป็นมาของเทศกาลดอกไม้ไฟ สำหรับตำนานและจุดเริ่มต้นของดอกไม้ไฟในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีหลากหลายเรื่องราวที่ถูกเล่าขานต่อๆกันมา แต่ครั้งนี้เราจะขออนุญาตย้อนไปในช่วงราวๆศตวรรษที่ 16 ซึ่งได้มีท่านโชกุนคนแรกของประเทศญี่ปุ่น ที่มีชื่อว่า โทกุกาวะ อิเอยาสุ ซึ่งในขณะนั้นท่านได้รับของกำนัลจากพระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งประเทศอังกฤษ ซึ่งของกำนันนั้นก็คือดอกไม้ไฟ และหลังจากนั้นก็ได้รับของกำนัลจากกลุ่มพ่อค้าชาวจีน จนกลายเป็นความนิยมของกลุ่มขุนนางและผู้ที่มียศฐาบรรดาศักดิ์ต่างๆแห่งเมืองเอโดะ ต่อมาในช่วงปีค. ศ. 1733 ได้มีการจัดเทศกาลเพื่อบูชาเทพแห่งสายน้ำที่มีชื่อว่า Suijinsai ขึ้น ซึ่งได้มีการจัดเทศกาลดอกไม้ไฟนี้เกิดขึ้นที่แม่น้ำสุมิดะ สำหรับการจัดงานนี้เพื่อเป็นการอุทิศและปัดเป่าภัยร้ายต่างๆและเป็นการอุทิศให้กับเหล่าวิญญาณที่ล่วงลับไปแล้ว สำหรับเทศกาลนี้มักจะถูกจัดขึ้นในช่วงฤดูร้อนของทุกๆปี และยังคงจัดกันมาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงในยุคปัจจุบัน ซึ่งลักษณะของดอกไม้ไฟในแบบต่างๆ ก็มีอยู่หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นทรงกลม ทรงหัวใจ ซึ่งดูแล้วจะถูกบรรจุอยู่ในเปลือกทรงกลม ซึ่งแตกต่างจากเปลือกดอกไม้ไฟของประเทศอื่นๆ จากนั้นเมื่อต้องการจุดก็สามารถจุดไฟตรงปลายกระบอกได้เลย จากนั้นไฟก็จะพุ่งขึ้นไปบนฟ้าแล้วก็จะกระจายออกอย่างงดงามให้เราได้ชม สำหรับการแต่งกายเพื่อไปชมดอกไม้ไฟนั้นในปัจจุบัน ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงนิยมสวมใส่ชุดยูกาตะเพื่อไปชมดอกไม้ไฟ (ตัวอย่างของชุดยูกาตะคุณสามารถรับชมจากภาพด้านบนที่เรานำมาฝากกันนี้ได้เลย) และถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน แต่สำหรับท่านที่ไม่สะดวกก็สามารถสวมชุดธรรมดาที่มีเนื้อผ้านุ่มเบาบางสวมใส่สบายไปชมก็ได้ เนื่องจากเทศกาลดอกไม้ไฟนั้นส่วนใหญ่แล้วมักจะจัดในฤดูร้อนและในช่วงฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่นนั้น ค่อนข้างร้อนมากในบางปีอาจร้อนมากกว่าเมืองไทยด้วยซ้ำ จึงแนะนำว่าคุณอาจจะสวมกางเกงขาสั้นและแต่งตัวสบายๆไปชมจะดีกว่า เพียงแต่แต่งกายให้สุภาพและให้เกียรติสถานที่ก็น่าจะเพียงพอ 1. งานเทศกาลดอกไม้ไฟฟุคุโรอิ […]
5 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีอันงดงามแห่งเมืองฮอกไกโด ที่ต้องไม่ควรพลาดแห่งปี 2022 !

ยังคงอยู่กันในประเทศญี่ปุ่นเช่นเคย และในครั้งนี้เราก็ยังคงอยู่กันในฝั่งฮอกไกโดเช่นกัน แต่ในครั้งนี้เราจะพาคุณมาชิลล์ไปกับ 5 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีอันงดงามแห่งเมืองฮอกไกโด ที่ต้องไม่ควรพลาดแห่งปี 2022 ! กันบ้าง เพราะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้นทัศนียภาพของสถานที่ต่างๆนั้น ย่อมมีสีสันที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งคุณจะพบกับความรู้สึกและบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติกและจะทำให้คุณรู้สึกฟินแบบแบบเวอร์ๆกันเลยล่ะ และในครั้งนี้พวกเราทีมงานได้รวบรวมแต่ละสถานที่ สำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสีของเมืองฮอกไกโดมาฝากคุณกันไว้ตรงนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อยากทราบกันแล้วว่าในแต่ละจุดนั้นจะมีความน่าสนใจมากน้อยเพียงไหนนั้น ต้องอย่ารอช้าเราไปชมพร้อมๆกันได้เลยดังนี้ 1.โซอุนเคียว (คามิคาวะ) เราจะพาคุณมาเริ่มต้นกับสถานที่แห่งแรกที่มีชื่อว่า โซอุนเคียว (คามิคาวะ) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหุบเขาที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับทางเข้าของอุทยานแห่งชาติที่ชื่อว่า ไดเซ็ตสึซัน หากคุณต้องการมาชมใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ขอแนะนำให้คุณเลือกที่พักในย่านเมืองออนเซ็น เพราะคุณจะได้ดื่มด่ำไปกับธรรมชาติ อีกทั้งยังสามารถเข้าไปท่องเที่ยวยังน้ำตกโมมิจิดากิได้อีกด้วย เนื่องจากเป็นเส้นทางที่อยู่ใกล้ๆกัน สำหรับการเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้คุณสามารถเดินทางจากสนามบินอาซาฮิคาวะโดยการนั่งรถยนต์ส่วนตัวโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาทีในการมาถึง และควรมาในช่วงปลายเดือนสิงหาคมไปจนถึงช่วงต้นเดือนตุลาคม เพราะเป็นช่วงที่ใบไม้กำลังเฮียตี๋ได้อย่างงดงาม ไปหาคุณต้องการเดินทางมาโดยรถไฟคุณก็สามารถมาลงยังสถานี Kamikawa แล้วนั่งรถบัสต่อมาลงยังป้ายSounkyo Onsen ได้เลยเมื่อถึงแล้วก็ใช้เวลาที่ไม่เกิน 5 นาทีในการเดินมายังสถานที่แห่งนี้ แต่ทางที่ดีที่สุดคุณควรตรวจสอบที่พักให้ดีไปก่อนก่อนที่จะทำการเดินทางมาถึง 2.โจซังเค (ซัปโปโร) หากมาถึงเมือง Hokkaido แล้วไม่ถามถึงสถานที่แห่งนี้ เห็นทีก็คงจะไม่ได้ซึ่งนั่นก็คือ โจซังเค (ซัปโปโร) สำหรับสถานที่แห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมของเหล่าบรรดาไปเที่ยวและชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ฤดูใบไม้ร่วงมาถึง ต้นไม้ใบไม้นานาชนิดของที่นี่ก็จะทำการเปลี่ยนสี ซึ่งนอกจากคุณจะได้ถ่ายภาพสวยๆเพื่อบันทึกความทรงจำเหล่านี้เอาไว้แล้ว คุณยังสามารถแช่บ่อน้ำร้อนท่ามกลางหุบเขา […]
รื่นรมย์ไปกับบรรยากาศสุดโรแมนติกของ 5 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในเมืองโตเกียว ที่ไม่ควรพลาดหากได้ไปเยือน !

ยังคงอยู่กันในประเทศญี่ปุ่นกันเช่นเคยสำหรับสัปดาห์นี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้พาคุณไปรู้จักกับจุดชมดอกไม้เปลี่ยนสีของภูมิภาคต่างๆกันมาพอสมควร ในครั้งนี้เราจะพาคุณไป รื่นรมย์ไปกับบรรยากาศสุดโรแมนติกของ 5 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในเมืองโตเกียว ที่ไม่ควรพลาดหากได้ไปเยือน ! กันบ้าง เพราะเราเชื่อว่าในเมืองโตเกียวยังคงมีอะไรดีๆให้น่าค้นหากันอีกมากมาย ซึ่งในครั้งนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับแต่ละสถานที่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพราะเป็นช่วงที่ใบไม้และพืชพรรณนานาชนิดกำลังต่างเปลี่ยนสี รวมทั้งมีอากาศที่กำลังดีซึ่งเหมาะแก่การเยี่ยมชมอย่างยิ่ง หากคุณได้มีโอกาสไปเยือนเมืองโตเกียว ต้องไม่ควรพลาดกับพิกัดต่างๆที่เรากำลังจะพาคุณไปรู้จักกันในครั้งนี้ หากอยากทราบกันแล้วว่ามีที่ใดน่าสนใจบ้าง ต้องอย่ารอช้าเราไปชมพร้อมๆกันได้เลยดังนี้ 1.สวนโคอิชิกาว่า โคระคุเอน(Koishikawa Korakuen) เราจะพาคุณมาเริ่มต้นกันที่ สวนโคอิชิกาว่า โคระคุเอน(Koishikawa Korakuen) สำหรับสวนแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นส่วนที่อุดมไปด้วยต้นเมเปิ้ล และในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้น ใบเมเปิ้ลก็จะทำการเปลี่ยนสีและร่วงหล่นไปตามพื้นอย่างสวยงามราวกับฉากในภาพวาด ส่วนใหญ่แล้วมักจะเริ่มเปลี่ยนสีในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนในทุกๆปี ซึ่งภายในสวนแห่งนี้มีสระน้ำขนาดกลางมากถึง 3 แห่ง นอกจากชมวิวของใบไม้เปลี่ยนสีกันแล้วคุณยังสามารถไปนั่งพักผ่อนหย่อนใจได้อีกด้วย ศูนย์แห่งนี้เป็นสวนในสไตล์ญี่ปุ่นและมีความดั้งเดิมในแบบญี่ปุ่นสูงได้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ในช่วงยุคสมัยเอโดะตอนต้นหรือประมาณปี ค.ศ. 1600-1867 จึงทำให้คุณรู้สึกสัมผัสถึงบรรยากาศอันแสนคลาสสิคของที่นี่ได้แบบเต็มๆ และหากคุณไปยืนที่บริเวณกลางสะพานข้ามบ่อน้ำคุณก็จะได้ภาพสวยๆที่เก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกให้นึกถึงว่าครั้งหนึ่งเคยได้มาที่นี่ สวนแห่งนี้ไม่ได้เปิดเพียงเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้นแต่ยังเปิดตลอดทุกฤดูกาลยกเว้นในช่วงปีใหม่จะทำการหยุด ดังนั้นคุณสามารถเข้ามาชมได้ในทุกๆฤดูได้มาเยือนที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว ที่เหมาะสำหรับการชมฤดูใบไม้เปลี่ยนสีอย่างยิ่งในเมืองโตเกียว 2.สวนโชวะ คิเนน(Showa Kinen Park) จะพาคุณมาต่อกันที่ สวนโชวะ คิเนน(Showa Kinen Park) สวนแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับจักรพรรดิโชวะเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี เรียกได้ว่าเป็นสวนที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งมีพื้นที่มากถึง 16300 […]
ดื่มด่ำบรรยากาศสุดโรแมนติกไปกับ 5 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีของฝั่งโทโฮคุ ที่ต้องไม่ควรพลาดแห่งปี 2022 !

ยังคงอยู่กันในประเทศญี่ปุ่นและยังคงอยู่กันในภูมิภาคโทโฮคุ เมื่อฤดูกาลแห่งความโรแมนติกมาถึงใครหลายคนก็มักจะมองหาสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ เพื่อจูงมีคนรักไปชมดอกไม้เปลี่ยนสี ซึ่งในครั้งนี้เราจะพาคุณไป ดื่มด่ำบรรยากาศสุดโรแมนติกไปกับ 5 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีของฝั่งโทโฮคุ ที่ต้องไม่ควรพลาดแห่งปี 2022 ! ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการรวบรวมสถานที่เจ๋งๆทีมีความสวยงาม เหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการจูงมือกันไปพักผ่อนอย่างแท้จริง อีกทั้งยังรายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่งดงามทำให้คุณต้องตะลึงต่อสายตาและตาตึงต่อจิตใจเมื่อได้พบเห็นกันอย่างแน่นอน หากอยากทราบกันแล้วว่าแต่ละสถานที่จะมีที่ใดน่าสนใจและน่าไปกันบ้างอย่ารอช้าเราไปชมพร้อมกันได้เลยดังนี้ 1.ถนนโจเซนจิโดริ (Jozenji-dori Ave) จังหวัดมิยางิ (Miyagi) สำหรับสถานที่แรกที่มีชื่อว่า ถนนโจเซนจิโดริ (Jozenji-dori Ave) จังหวัดมิยางิ (Miyagi) ซึ่งรายล้อมไปด้วยต้นไม้และใบไม้เปลี่ยนสีที่มีความงดงาม จากภาพด้านบนคุณจะเห็นถึงความถึงความเหลืองอร่ามของสีใบไม้ ทั้งสองข้างทางของถนนเส้นนี้จะรายล้อมไปด้วยต้นไม้พี่ภาพยาวไกลถึง 700 เมตร จึงทำให้ถูกขนานนามกันว่าเป็นเมืองแห่งต้นไม้ ซึ่งในช่วงฤดูร้อนก็จะมองเห็นถึงความเขียวขจี และในช่วงฤดูเขาก็จะมองเห็นถึงสีขาวโพลนที่ปกคลุมไปด้วยหิมะที่สวยงามไปอีกแบบ ส่วนใหญ่แล้วผู้คนมักมาชมต้นไม้ใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งคุณสามารถมาเที่ยวชมในสถานที่แห่งนี้ได้โดยไม่มีการเก็บค่าเข้าชมใดๆทั้งสิ้น สามารถเดินเล่นและถ่ายภาพแบบชิลล์ๆ กับเพื่อนๆได้เลย สำหรับการเดินทางมาที่นี่ก็ไม่ยากเพียงคุณนั่งรถบัสมาลงยังป้าย Jozenji-dori Ave ก็สามารถถึงถนนเส้นนี้ได้แบบไม่ต้องกลัวหลง เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่มีบรรยากาศสุดโรแมนติกแบบสุดๆในช่วงฤดูใบไม้ร่วงกันเลยทีเดียว 2.หมู่บ้านน้ำพุร้อน นิวโตะอนเซ็น (Nyuto Onsen Hot Springs Village) จังหวัดอาคิตะ (Akita) จะพาคุณมายังเมืองอาคิตะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีกันบ้างกับสถานที่ที่มีชื่อ หมู่บ้านน้ำพุร้อน นิวโตะอนเซ็น (Nyuto […]