ร้านอาหารรสเลิศที่เปิด 24 ชั่วโมงในโตเกียว ที่ตอบสนองความหิวของนักท่องเที่ยวช่วงดึกได้ยอดเยี่ยม ! 

ร้านอาหารรสเลิศที่เปิด-24-ชั่วโมงในโตเกียว

โตเกียวถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองที่ไม่เคยหลับใหลอย่างแท้จริง เพราะผู้คนมากมายต่างหลงใหลในสถานบันเทิงยามค่ำคืนอันน่าหลงใหลเป็นอย่างมากมาย  และหากคุณหิวในมื้อดึกขณะที่คุณอยู่ในโตเกียวเรากำลังจะพาคุณมาทราบถึง ร้านอาหารรสเลิศที่เปิด 24 ชั่วโมงในโตเกียว ที่ตอบสนองความหิวของนักท่องเที่ยวช่วงดึกได้ยอดเยี่ยม !  เพราะเชื่อว่าจะต้องเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆที่กำลังวางแผนท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังอยู่ในเมืองโตเกียวเป็นอย่างแน่นอน เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปพบกับร้านอาหารที่น่าสนใจดังต่อไปนี้กันเลยดีกว่า  ร้าน Gyoza Sakaba สาขา Shinbashi  (เกี๊ยวยามดึกในกินซ่า) เพื่อให้ได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เป็นสากลของโตเกียว การเดินทางไปกินซ่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด เนื่องจากเป็นย่านที่หรูหราที่สุดแห่งหนึ่งของโตเกียว ซึ่งมีแบรนด์ระดับไฮเอนด์และคาเฟ่หรูหราที่jแย่งชิงความสนใจของคุณได้ดีอย่างแน่นอน หากคุณพบว่าตัวเองอยู่ในบริเวณนี้หลังจากที่ร้านค้าหลายแห่งปิดทำการตลอดทั้งวัน คุณอาจต้องการตรงไปที่ Gyoza Sakaba Shimbashi สาขาใน Shinbashi ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งอยู่ห่างจากกินซ่าเพียงไม่กี่ก้าว อันที่จริง เดินเพียงสองนาทีจากสถานีชิมบาชิบนโตเกียวเมโทรสายกินซ่า เกี๊ยวซ่า ซาคาบะ สาขาชิมบาชิ เสิร์ฟเกี๊ยวซ่าแสนอร่อยที่สามารถเตรียมได้หลากหลายวิธีตามชื่อร้าน โดยมีท็อปปิ้งให้เลือกตั้งแต่ชีสไปจนถึงซอสพริก ผักชี และอื่นๆ เมนูอาหารที่หลากหลายของร้านอาหารมีรายการอาหารที่น่าประทับใจมากมายจากอาหารญี่ปุ่นและอาหารจีน รวมถึงอาหารผัดผักต่างๆ สลัด ราเมน ข้าวผัด “คาราเกะ” (ไก่ทอดญี่ปุ่น) อาหารทะเล และแม้แต่ติ่มซำ! ที่ตั้ง : Gyoza Sakaba Shimbashi Branch Google Maps […]

5 สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองซัปโปโร ที่น่าไปเยือนสักครั้งในปี 2022 ! 

ทริคเที่ยวญี่ปุ่น

ยังคงอยู่กันในประเทศญี่ปุ่นเช่นเคย ได้พาคุณไปท่องเที่ยวกันมาหลายจังหวัดแล้ว ซึ่งในครั้งนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 5 สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองซัปโปโร ที่น่าไปเยือนสักครั้งในปี 2022 !  บ้าง สำหรับสิ่งที่เราได้นำมาฝากคุณกันในครั้งนี้ก็คือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่อยู่ในฝั่งซัปโปโร ซึ่งแน่นอนว่าการท่องเที่ยวในฝั่งนี้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับในช่วงฤดูหนาว ที่มีหิมะสีขาวร่วงหล่นปกคลุมตามพื้นที่ต่างๆทำให้เราสามารถเก็บภาพประทับใจได้เป็นอย่างดี และสถานที่สุดฟินเหล่านั้นจะมีที่ใดบ้าง หากอยากทราบกันแล้วต้องอย่ามัวแต่รอช้ารอ เราไปชมพร้อมๆกันได้เลยดังนี้ 1.สวนศิลปะ Sapporo Art Park จะพาคุณไปเริ่มต้นกันที่ สวนศิลปะ Sapporo Art Park ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่เหมาะสำหรับคนที่รักศิลปะอย่างมาก เพราะมีกิจกรรมต่างๆให้คุณเลือกทำอย่างมากมาย และสามารถทำร่วมกับครอบครัวได้อย่างลงตัวกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบ้านที่มีเด็กๆต้องขอบอกเลยว่าห้ามพลาด เพราะจะทำให้คุณและคุณหนูๆสามารถเพลิดเพลินกันได้ทั้งวันแบบไม่น่าเบื่อ เนื่องด้วยในสวนศิลปะแห่งนี้อุดมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆให้กับผู้เข้าชมอย่างมากมาย ซึ่งในศูนย์แห่งนี้ได้มีการจัดนิทรรศการศิลปะออกมาอย่างสม่ำเสมอและมีให้เข้าชมได้ในทุกฤดูกาล มีการนำความงามจากธรรมชาติของฮอกไกโดมาผสมผสานกับความเป็นศิลปะ ซึ่งคุณสามารถมองเห็นได้ตั้งแต่สิ่งปลูกสร้างของทางเข้า นอกจากจะมีทัศนียภาพที่สวยงามให้คุณได้ชื่นชมแล้วคุณยังสามารถสัมผัสกับบรรยากาศและอากาศดีๆของธรรมชาติได้อย่างเต็มอิ่มอีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่หากคุณมาเยือนเมืองซัปโปโรแล้วต้องไม่ควรพลาด และหากคุณกำลังต้องการไปสถานที่แห่งนี้ ก็สามารถเข้าชมข้อมูลของการเปิดให้บริการเพิ่มเติม ได้จากลิงค์ด้านล่างที่เรานำมาฝากกันได้เลย ข้อมูลเพิ่มเติมของ สวนศิลปะ Sapporo Art Park : https://artpark.or.jp/  2. สวนสาธารณะมารุยาม่า Maruyama Park และอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความน่าสนใจของเมืองนี้ก็คือ สวนสาธารณะมารุยาม่า Maruyama Park ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่มีความสวยงามและอุดมไปด้วยธรรมชาติอย่างยิ่งมีชื่อเสียงโด่งดัง […]

ท่องเที่ยวเมืองธรรมชาติ สัมผัสบรรยากาศญี่ปุ่นแบบเดิมๆไปกับ 5 สถานที่สุดฟินในจังหวัดกิฟุ ! 

ทริคเที่ยวญี่ปุ่น

ยังคงอยู่กันในประเทศญี่ปุ่นเหมือนเช่นเคย ซึ่งในครั้งนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับอีกหนึ่งจังหวัดที่รายล้อมไปด้วยขุนเขาและ ท่องเที่ยวเมืองธรรมชาติ สัมผัสบรรยากาศญี่ปุ่นแบบเดิมๆไปกับ 5 สถานที่สุดฟินในจังหวัดกิฟุ ! ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีความเป็นเอกลักษณ์และวัฒนธรรมอันงดงาม พร้อมทั้งยังมีถานที่ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมรโลก จนทำให้ผู้คนทั่วโลกต่างอยากมีโอกาสได้มาสัมผัส และในครั้งนี้เราได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความเป็นธรรมชาติกันแบบสุดๆในจังหวัดกิฟุมาให้คุณได้ชมกัน หากอยากทราบแล้วว่าจะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้นเราไปชมพร้อมๆกันดีกว่า  1.แม่น้ำนางาระ  ชมการประมงแบบอุไก จะพาคุณมาเริ่มต้นกันกับสถานที่สุดโบราณที่มรชื่อว่า แม่น้ำนางาระ ชมการประมงแบบอุไก ซึ่งจะพาคุณไปชมกับการหาปลาด้วยวิธีโบราณซึ่งเรียกกันว่า การประมงแบบอุไก ในแม่น้ำที่มีชื่อว่านางาระ ซึ่งเป็นแม่น้ำที่มีความเป็นมายาวนานมากกว่า 1300 ปี มีประเพณีดั้งเดิมในช่วงฤดูร้อน หากคุณได้ไปยังสถานที่แห่งนี้คุณจะสามารถนั่งเรือเพื่อชมวิวโดยเรือนี้จะแล่นเคียงคู่ไปกับเรืออุบุเนะ ที่คนพื้นเมืองมักจะใช้ในการหาปลากรือทำการประมงแบบอุไกนั่นเอง  ซึ่งการประมงแบบอุไกนั้นจะเป็นการจับปลา ด้วยวิธีการนำนกกาน้ำที่เลี้ยงไว้มาใช้ในการจับปลา นักท่องเที่ยวที่มายังสถานที่แห่งนี้ก็จะได้พบเห็นวิธีทำการประมงแบบดั้งเดิมนี้ โดยได้ชมการแสดงการจับปลาแบบสดๆ มีการใช้ทั้งคบไฟสำหรับเป็นอุปกรณ์ในการหาปลา อีกทั้งยังมีเสียงโห่ร้องและวิธีการสื่อสารกับนกกาน้ำ เพื่อให้นกกาน้ำได้จัดการจับปลานั่นเอง ซึ่งเป็นวิธีโบราณที่มีอย่างยาวนานที่คนญี่ปุ่นใช้ในการทำประมงแบบไก และเราจะได้เห็นเทคนิคอันเก่าแก่นี้เมื่อได้ไปเยือนในสถานที่แห่งนี้ สำหรับการมาที่นี่ก็ใช้เวลาเพียงประมาณ 20 นาทีโดยการนังรถบัสจากสถานีรถไฟกิฟุ จากนั้นให้ลงที่สะพานสะพานนางาระ แล้วใช้เวลาเดินประมาณ 1 นาที ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.ukai-gifucity.jp/Ukai/  2.ปราสาทกิฟุ (岐阜城) เราจะพาคุณมารู้จักกับอีกหนึ่งสถานที่ที่มีชื่อว่า ปราสาทกิฟุ (岐阜城)  ในสมัยก่อนนั้นปราสาทแห่งนี้ได้มีชื่อเรียกว่า ปราสาทอินาบะยามะ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของ ไซโตะ โดซัง […]

5 ที่พักสไตล์เรียวกังในเมืองโตเกียว บรรยากาศดี ราคาไม่แพง ที่น่านอนปี 2022 !

ทริคเที่ยวญี่ปุ่น

ขึ้นชื่อว่าประเทศญี่ปุ่น เมื่อได้มาถึงเราเชื่อว่าจะต้องนึกถึงที่พักแบบเรียวกังพร้อมทั้งการได้สวมใส่ชุดยูกะตะกันอย่างแน่นอน จึงเป็นเหตุผลให้ในครั้งนี้เราได้รวบรวม 5 ที่พักสไตล์เรียวกังในเมืองโตเกียว บรรยากาศดี ราคาไม่แพง ที่น่านอนปี 2022 ! มาฝากคุณกันไว้ที่นี่ เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเข้ารับบริการที่ดีกับที่พักราคาไม่แพงในเมืองโตเกียวเมื่อคุณได้มาถึง หากต้องการทราบกันแล้วว่าแต่ละสถานที่ที่เราจะพาคุณไปรู้จักนี้จะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง อย่ารอช้าค่ะเราไปชมพร้อมๆกันเลยดีกว่า 1.Sukeroku no Yado Sadachiyo  (助六の宿 貞千代) เราจะพาคุณไปเริ่มต้นกันที่ Sukeroku no Yado Sadachiyo  (助六の宿 貞千代) สำหรับที่พักแห่งนี้เรียกได้ว่าตั้งอยู่ในทำเลที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เพราะอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวอย่างAsakusa หากคุณได้พักที่นี่คุณจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศของความเก่าแก่ในสมัยเอโดะ เป็นที่พักในสไตล์เรียวกังแบบญี่ปุ่นแท้ๆ พร้อมทั้งมีการตกแต่งในสไตล์โบราณ ภายในมีการเก็บของเก่าๆในสมัยก่อนเอาไว้ให้ผู้คนเข้าพักได้ชื่นชม อีกทั้งยังมีการให้บริการทัวร์เพื่อพาชมโบราณสถานต่างๆ และสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อในย่านนั้นอีกด้วย สำหรับการเดินทางไปยังที่พักแห่งนี้ก็ไม่ยากเนื่องจากอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ Asakusa ที่ใช้เวลาเดินเพียง 10 นาทีก็ถึงแล้ว และนอกจากนี้ยังใกล้แหล่งช้อปปิ้งต่างๆอีกหลายแห่งอีกด้วย หากคุณได้มีโอกาสไปพักในเมืองโตเกียว ก็สามารถเข้าไปใช้บริการกับพักเก๋ๆแห่งนี้ได้ 2.Ryokan Asakusa Shigetsu (旅館 浅草 指月) มาต่อกันกับอีกหนึ่งที่พักแสนสวยสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ที่มีชื่อว่า Ryokan Asakusa Shigetsu (旅館 […]

7 สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปให้ได้ เมื่อมาถึงเมืองมิยางิ แห่งประเทศญี่ปุ่นแล้ว !

เที่ยวญี่ปุ่น

เมื่อเอ่ยถึงสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองมิยางิ ใครหลายคนอาจไม่ค่อยจะชินหูกับชื่อเมืองนี้กันเท่าไรนัก จึงทำให้ในครั้งนี้เราได้รวบรวมข้อมูลของ 7 สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปให้ได้ เมื่อมาถึงเมืองมิยางิ แห่งประเทศญี่ปุ่นแล้ว ! เพราะเราเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่าน ที่กำลังต้องการเดินทางท่องเที่ยวไปยังเมืองมิยางิ และมองหาจุดชมวิว แหล่งช้อปปิ้งรวมถึงแหล่งซื้อของฝากต่างๆ ซึ่งในครั้งนี้เราได้รวบรวมแต่ละสถานที่น่าสนใจมาฝากคุณกันไว้ที่นี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากต้องการทราบกันแล้วว่าจะมีสถานที่ใดที่น่าไปบ้าง ต้องอย่ารอช้า เราไปชมพร้อมๆกันได้เลยดังนี้    1.ปากปล่องภูเขาไฟโอคามะ (御釜) จะพาคุณไปเริ่มต้นกันกับสถานที่แรก ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอันซีนของประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ กับสถานที่ที่มีชื่อว่า ปากปล่องภูเขาไฟโอคามะ (御釜) ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาซะโอะ มีทัศนียภาพที่สวยงามราวกับภาพวาด ด้วยสีเขียวมรกตที่ปรากฏอยู่ทางปากของปล่อง ซึ่งลักษณะของปล่องไฟนี้มีความคล้ายกับหม้อหุงข้าวของสมัยก่อนเป็นอย่างมาก จึงทำให้ปากปล่องนี้ถูกเรียกว่า โอคามะ ซึ่งมีความหมายว่าหม้อนั่นเอง ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้สามารถเปลี่ยนสีได้มากถึง5สี  จึงทำให้ผู้คนและนักเดินทางทั่วโลกต่างให้ความสนใจ ในการเดินทางมาในสถานที่แห่งนี้เพื่อชมทัศนียภาพอันสวยงาม ที่เรียกได้ว่าเป็นอันซีนของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคุณสามารถเดินทางมาที่นี่โดยการขึ้นกระเช้าลอยฟ้า เพื่อขึ้นมายังจุดชมวิวได้แบบสบายๆ แต่ก็ควรมีการเตรียมตัวและแต่งตัวให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่หากได้มาเยือนเมืองมิยาหงิแล้วควรจะต้องได้มาซักครั้ง! 2.ปราสาทอาโอบะ (青葉城) เราจะพาคุณไปต่อกันที่ ปราสาทอาโอบะ (青葉城) ซึ่งหากคุณมาถึงสถานที่แห่งนี้แล้วจุดสังเกตง่ายๆก็คือ รูปปั้นอันโดดเด่นของท่านดาเตะ มะซะมุเนะ ที่ประดับอยู่ตรงกลางอนุสาวรีย์ท่านผู้คือสุดยอดซามูไรที่ได้นำความเจริญมาสู่เมืองเซนไดแห่งนี้ ซึ่งในสมัยก่อนบริเวณปราสาทเซนไดถือเป็นป้อมปราการที่ใช้สำหรับป้องกันข้าศึกได้เป็นอย่างดี  ถ้าคุณได้มีโอกาสมาถึงสถานที่แห่งนี้ก็สามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ปราสาทอะโอบะ ได้ซึ่งภายในจะมีการเก็บข้าวของเครื่องใช้เก่าแก่ในสมัยเอโดะเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ดู พร้อมทั้งยังมีภาพยนตร์สั้นที่เกี่ยวกับปราสาทแห่งนี้ให้คุณได้ชมด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังมีจุดชมวิวที่ทำให้คุณสามารถมองเห็นเมืองเซนต์ไดได้ชัดเจนแบบ 360 องศากันเลยทีเดียว […]

ความเป็นมาของเทศกาลดอกไม้ไฟ พร้อมสถานที่จัดงานสุดอลังการณ์ของประเทศญี่ปุ่น! 

เที่ยวญี่ปุ่น

ยังคงอยู่กันในประเทศญี่ปุ่นเช่นเคยและเมื่อฤดูกาลแห่งการชมดอกไม้ไฟมาถึง เราเชื่อว่าใครหลายคนจะต้องกำลังมองหาสถานที่ในการชมดอกไม้ไฟกันอยู่อย่างแน่นอน และจะดีแค่ไหนหากการได้จูงมือใครสักคนไปชมด้วยกัน  ในครั้งนี้เราจึงได้รวบรวมเรื่องราวของ ความเป็นมาของเทศกาลดอกไม้ไฟ พร้อมสถานที่จัดงานสุดอลังการณ์ของประเทศญี่ปุ่น ! มาฝากคุณกันไว้ที่นี่เพราะเราเชื่อว่าจะต้องเป็นประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่านที่ต้องการทราบถึงรายละเอียดต่างๆ ของเทศกาลดอกไม้ไฟ รวมทั้งแหล่งชมดอกไม้ไฟที่สวยงามในประเทศญี่ปุ่นกันมากยิ่งขึ้น หากอยากทราบกันแล้วว่าจะมีความเป็นมาอย่างไร และแต่ละสถานที่ที่เรานำมาฝากนั้นจะน่าสนใจขนาดไหน ต้องอย่ารอช้าเราไปชมพร้อมๆกันได้เลยดังนี้  ความเป็นมาของเทศกาลดอกไม้ไฟ สำหรับตำนานและจุดเริ่มต้นของดอกไม้ไฟในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีหลากหลายเรื่องราวที่ถูกเล่าขานต่อๆกันมา แต่ครั้งนี้เราจะขออนุญาตย้อนไปในช่วงราวๆศตวรรษที่ 16 ซึ่งได้มีท่านโชกุนคนแรกของประเทศญี่ปุ่น ที่มีชื่อว่า โทกุกาวะ อิเอยาสุ ซึ่งในขณะนั้นท่านได้รับของกำนัลจากพระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งประเทศอังกฤษ ซึ่งของกำนันนั้นก็คือดอกไม้ไฟ และหลังจากนั้นก็ได้รับของกำนัลจากกลุ่มพ่อค้าชาวจีน จนกลายเป็นความนิยมของกลุ่มขุนนางและผู้ที่มียศฐาบรรดาศักดิ์ต่างๆแห่งเมืองเอโดะ  ต่อมาในช่วงปีค. ศ. 1733 ได้มีการจัดเทศกาลเพื่อบูชาเทพแห่งสายน้ำที่มีชื่อว่า Suijinsai ขึ้น ซึ่งได้มีการจัดเทศกาลดอกไม้ไฟนี้เกิดขึ้นที่แม่น้ำสุมิดะ สำหรับการจัดงานนี้เพื่อเป็นการอุทิศและปัดเป่าภัยร้ายต่างๆและเป็นการอุทิศให้กับเหล่าวิญญาณที่ล่วงลับไปแล้ว สำหรับเทศกาลนี้มักจะถูกจัดขึ้นในช่วงฤดูร้อนของทุกๆปี  และยังคงจัดกันมาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงในยุคปัจจุบัน  ซึ่งลักษณะของดอกไม้ไฟในแบบต่างๆ ก็มีอยู่หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นทรงกลม ทรงหัวใจ ซึ่งดูแล้วจะถูกบรรจุอยู่ในเปลือกทรงกลม ซึ่งแตกต่างจากเปลือกดอกไม้ไฟของประเทศอื่นๆ จากนั้นเมื่อต้องการจุดก็สามารถจุดไฟตรงปลายกระบอกได้เลย จากนั้นไฟก็จะพุ่งขึ้นไปบนฟ้าแล้วก็จะกระจายออกอย่างงดงามให้เราได้ชม   สำหรับการแต่งกายเพื่อไปชมดอกไม้ไฟนั้นในปัจจุบัน ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงนิยมสวมใส่ชุดยูกาตะเพื่อไปชมดอกไม้ไฟ (ตัวอย่างของชุดยูกาตะคุณสามารถรับชมจากภาพด้านบนที่เรานำมาฝากกันนี้ได้เลย) และถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน แต่สำหรับท่านที่ไม่สะดวกก็สามารถสวมชุดธรรมดาที่มีเนื้อผ้านุ่มเบาบางสวมใส่สบายไปชมก็ได้ เนื่องจากเทศกาลดอกไม้ไฟนั้นส่วนใหญ่แล้วมักจะจัดในฤดูร้อนและในช่วงฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่นนั้น ค่อนข้างร้อนมากในบางปีอาจร้อนมากกว่าเมืองไทยด้วยซ้ำ จึงแนะนำว่าคุณอาจจะสวมกางเกงขาสั้นและแต่งตัวสบายๆไปชมจะดีกว่า เพียงแต่แต่งกายให้สุภาพและให้เกียรติสถานที่ก็น่าจะเพียงพอ   1. งานเทศกาลดอกไม้ไฟฟุคุโรอิ […]

รื่นรมย์ไปกับบรรยากาศสุดโรแมนติกของ 5 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในเมืองโตเกียว ที่ไม่ควรพลาดหากได้ไปเยือน ! 

เที่ยวญี่ปุ่น

ยังคงอยู่กันในประเทศญี่ปุ่นกันเช่นเคยสำหรับสัปดาห์นี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้พาคุณไปรู้จักกับจุดชมดอกไม้เปลี่ยนสีของภูมิภาคต่างๆกันมาพอสมควร ในครั้งนี้เราจะพาคุณไป รื่นรมย์ไปกับบรรยากาศสุดโรแมนติกของ 5 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในเมืองโตเกียว ที่ไม่ควรพลาดหากได้ไปเยือน ! กันบ้าง เพราะเราเชื่อว่าในเมืองโตเกียวยังคงมีอะไรดีๆให้น่าค้นหากันอีกมากมาย ซึ่งในครั้งนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับแต่ละสถานที่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพราะเป็นช่วงที่ใบไม้และพืชพรรณนานาชนิดกำลังต่างเปลี่ยนสี รวมทั้งมีอากาศที่กำลังดีซึ่งเหมาะแก่การเยี่ยมชมอย่างยิ่ง หากคุณได้มีโอกาสไปเยือนเมืองโตเกียว ต้องไม่ควรพลาดกับพิกัดต่างๆที่เรากำลังจะพาคุณไปรู้จักกันในครั้งนี้ หากอยากทราบกันแล้วว่ามีที่ใดน่าสนใจบ้าง ต้องอย่ารอช้าเราไปชมพร้อมๆกันได้เลยดังนี้  1.สวนโคอิชิกาว่า โคระคุเอน(Koishikawa Korakuen) เราจะพาคุณมาเริ่มต้นกันที่ สวนโคอิชิกาว่า โคระคุเอน(Koishikawa Korakuen) สำหรับสวนแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นส่วนที่อุดมไปด้วยต้นเมเปิ้ล และในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้น ใบเมเปิ้ลก็จะทำการเปลี่ยนสีและร่วงหล่นไปตามพื้นอย่างสวยงามราวกับฉากในภาพวาด ส่วนใหญ่แล้วมักจะเริ่มเปลี่ยนสีในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนในทุกๆปี ซึ่งภายในสวนแห่งนี้มีสระน้ำขนาดกลางมากถึง 3 แห่ง นอกจากชมวิวของใบไม้เปลี่ยนสีกันแล้วคุณยังสามารถไปนั่งพักผ่อนหย่อนใจได้อีกด้วย  ศูนย์แห่งนี้เป็นสวนในสไตล์ญี่ปุ่นและมีความดั้งเดิมในแบบญี่ปุ่นสูงได้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ในช่วงยุคสมัยเอโดะตอนต้นหรือประมาณปี  ค.ศ. 1600-1867 จึงทำให้คุณรู้สึกสัมผัสถึงบรรยากาศอันแสนคลาสสิคของที่นี่ได้แบบเต็มๆ  และหากคุณไปยืนที่บริเวณกลางสะพานข้ามบ่อน้ำคุณก็จะได้ภาพสวยๆที่เก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกให้นึกถึงว่าครั้งหนึ่งเคยได้มาที่นี่ สวนแห่งนี้ไม่ได้เปิดเพียงเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้นแต่ยังเปิดตลอดทุกฤดูกาลยกเว้นในช่วงปีใหม่จะทำการหยุด ดังนั้นคุณสามารถเข้ามาชมได้ในทุกๆฤดูได้มาเยือนที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว ที่เหมาะสำหรับการชมฤดูใบไม้เปลี่ยนสีอย่างยิ่งในเมืองโตเกียว  2.สวนโชวะ คิเนน(Showa Kinen Park)  จะพาคุณมาต่อกันที่ สวนโชวะ คิเนน(Showa Kinen Park) สวนแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับจักรพรรดิโชวะเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี เรียกได้ว่าเป็นสวนที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งมีพื้นที่มากถึง 16300 […]

ดื่มด่ำบรรยากาศสุดโรแมนติกไปกับ 5 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีของฝั่งโทโฮคุ ที่ต้องไม่ควรพลาดแห่งปี 2022 ! 

เที่ยวญี่ปุ่น

ยังคงอยู่กันในประเทศญี่ปุ่นและยังคงอยู่กันในภูมิภาคโทโฮคุ เมื่อฤดูกาลแห่งความโรแมนติกมาถึงใครหลายคนก็มักจะมองหาสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ เพื่อจูงมีคนรักไปชมดอกไม้เปลี่ยนสี ซึ่งในครั้งนี้เราจะพาคุณไป ดื่มด่ำบรรยากาศสุดโรแมนติกไปกับ 5 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีของฝั่งโทโฮคุ ที่ต้องไม่ควรพลาดแห่งปี 2022 ! ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการรวบรวมสถานที่เจ๋งๆทีมีความสวยงาม เหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการจูงมือกันไปพักผ่อนอย่างแท้จริง อีกทั้งยังรายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่งดงามทำให้คุณต้องตะลึงต่อสายตาและตาตึงต่อจิตใจเมื่อได้พบเห็นกันอย่างแน่นอน หากอยากทราบกันแล้วว่าแต่ละสถานที่จะมีที่ใดน่าสนใจและน่าไปกันบ้างอย่ารอช้าเราไปชมพร้อมกันได้เลยดังนี้  1.ถนนโจเซนจิโดริ (Jozenji-dori Ave)  จังหวัดมิยางิ (Miyagi) สำหรับสถานที่แรกที่มีชื่อว่า  ถนนโจเซนจิโดริ (Jozenji-dori Ave) จังหวัดมิยางิ (Miyagi) ซึ่งรายล้อมไปด้วยต้นไม้และใบไม้เปลี่ยนสีที่มีความงดงาม จากภาพด้านบนคุณจะเห็นถึงความถึงความเหลืองอร่ามของสีใบไม้ ทั้งสองข้างทางของถนนเส้นนี้จะรายล้อมไปด้วยต้นไม้พี่ภาพยาวไกลถึง 700 เมตร จึงทำให้ถูกขนานนามกันว่าเป็นเมืองแห่งต้นไม้ ซึ่งในช่วงฤดูร้อนก็จะมองเห็นถึงความเขียวขจี และในช่วงฤดูเขาก็จะมองเห็นถึงสีขาวโพลนที่ปกคลุมไปด้วยหิมะที่สวยงามไปอีกแบบ ส่วนใหญ่แล้วผู้คนมักมาชมต้นไม้ใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งคุณสามารถมาเที่ยวชมในสถานที่แห่งนี้ได้โดยไม่มีการเก็บค่าเข้าชมใดๆทั้งสิ้น สามารถเดินเล่นและถ่ายภาพแบบชิลล์ๆ กับเพื่อนๆได้เลย สำหรับการเดินทางมาที่นี่ก็ไม่ยากเพียงคุณนั่งรถบัสมาลงยังป้าย Jozenji-dori Ave ก็สามารถถึงถนนเส้นนี้ได้แบบไม่ต้องกลัวหลง เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่มีบรรยากาศสุดโรแมนติกแบบสุดๆในช่วงฤดูใบไม้ร่วงกันเลยทีเดียว  2.หมู่บ้านน้ำพุร้อน นิวโตะอนเซ็น (Nyuto Onsen Hot Springs Village) จังหวัดอาคิตะ (Akita) จะพาคุณมายังเมืองอาคิตะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีกันบ้างกับสถานที่ที่มีชื่อ หมู่บ้านน้ำพุร้อน นิวโตะอนเซ็น (Nyuto […]

5 สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดเฮียวโงะ ที่ไม่ควรพลาดในปี 2022! 

เที่ยวญี่ปุ่น

ใครหลายคนอาจไม่ค่อยคุ้นหูกับชื่อของจังหวัดเฮียวโงะกันมากนัก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจังหวัดเก่าแก่ที่อยู่ในภูมิภาคคันไซนั่นเอง มีที่สถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่น่าสนใจและอาจจะทำให้คุณหลงเสน่ห์กันได้แบบง่ายๆและไม่ยากเย็นอีกด้วย จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 5 สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดเฮียวโงะ ที่ไม่ควรพลาดในปี 2022 ! เพราะเราเชื่อว่าจังหวัดแห่งนี้มีมนต์ขลังและมีเสน่ห์จนสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี ซึ่งในครั้งนี้แต่ละสถานที่ที่เราได้รวบรวมมาฝากคุณกันนั้น ล้วนแล้วแต่มีความน่าไปเยี่ยมชมอยู่ไม่น้อย และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปชมพร้อมๆกันเลยดีกว่า 1.คิโนซากิ ออนเซ็นดังแห่งคันไซ (Kinosaki Onsen) เราจะพาคุณมาเริ่มต้นกันกับสถานที่แห่งแรกที่มีชื่อว่า คิโนซากิ ออนเซ็นดังแห่งคันไซ (Kinosaki Onsen) ซึ่งเรียกได้ว่าบรรยากาศรอบข้างมีความงดงามที่เงียบสงบอย่างยิ่งและได้รับความนิยมมากในช่วงฤดูหนาวเพราะนอกจากคุณจะได้สัมผัสกับความสวยงามแล้ว คุณยังสามารถแช่น้ำร้อนท่ามกลางอุณหภูมิของความเหน็บหนาวได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนหลังจากที่เดินทางมาอย่างเหน็ดเหนื่อยแล้วทั้งวัน สำหรับการไปสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ยากเพียงคุณนั่งรถไฟไปลงที่สถานี Kinosaki Onsen จากนั้นก็ใช้เวลาเพียงประมาณไม่เกิน 15 นาทีในการเดินไปถึงแบบไม่ยุ่งยากมากนัก  2.ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) และอีกหนึ่งสถานที่ที่เราอยากจะพาคุณไปรู้จักก็ ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) สำหรับสถานที่แห่งนี้เรียกได้ว่ามีความสำคัญต่อจังหวัดเฮียวโงะเป็นอย่างมากในปัจจุบันได้มีการลงทะเบียนให้เป็นมรดกโลกยูเนสโกและเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย เป็นปราสาทที่มีความงดงามและมีสถาปัตยกรรมที่มีความเก่าแก่และอ่อนช้อยผู้คนให้สมญานามกับปราสาทแห่งนี้ว่า  “ปราสาทนกกระยางขาว”  สำหรับตัวอาคารนั้นมีความเก่าแก่และดั้งเดิมที่สุดเพราะไม่ได้มีการสร้างใหม่  เพราะรอดพ้นจากภัยธรรมชาติ และการโจมตีของข้าศึกต่างๆจึงเรียกได้ว่าแท้ทั้งอาคารกันเลยทีเดียว จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เหล่าบรรดานักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติต่างอยากเข้าชมสถาปัตยกรรมของปราสาทแห่งนี้ ซึ่งในปัจจุบันสามารถเข้าชมได้ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนไปจนถึงสิงหาคมและก็ปิดทำการในช่วงวันปีใหม่ของทุกปี และสำหรับช่วงที่มีเหตุการณ์การเเพร่กระจายเชื้อ covid19 นี้ ก็อาจจะยังคงปิดไม่ให้เข้าเยี่ยมชม ซึ่งคุณสามารถสอบถามได้ที่เว็บไซต์ของประสาทโดยตรงได้เลย  3.สะพานอากาชิไคเคียว (Akashi Kaikyo Bridge) […]

ต้องมนต์เสน่ห์แห่งเมืองศิลปะไปกับ 7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดทตโตริ ! 

เที่ยวญี่ปุ่น

ได้รู้จักสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆของแต่ละจังหวัด แต่ละภูมิภาคในประเทศญี่ปุ่นกันไปแล้วในครั้งนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับจังหวัดทตโทริกันบ้าง กลับหัวข้อ ต้องมนต์เสน่ห์แห่งเมืองศิลปะไปกับ 7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดทตโตริ !  ซึ่งแต่ละสถานที่ที่เราได้นำมาฝากกันในครั้งนี้ ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญและได้รับความนิยมจากบรรดานักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นสูง ถ้าอยากทราบกันแล้วว่าจะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างต้องอย่ารอช้าเรามาชมพร้อมๆกันได้เลยดังนี้  1. Gosho Aoyama Manga Factory ตามรอยโคนัน  สำหรับสถานที่แรกที่เราจะพาคุณไปรู้จักกันก็คือ Gosho Aoyama Manga Factory ตามรอยโคนัน  ซึ่งหากใครที่เป็นแฟนคลับโคนันกันอยู่แล้วล่ะก็ต้องขอบอกเลยว่าคุณไม่ควรพลาด เพราะที่แห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมความเป็นมาของการ์ตูนโคนัน ซึ่งมีตั้งแต่ประวัติความเป็นมาของนักเขียนที่เขียนการ์ตูนเรื่องโคนันซึ่งก็คือ  อาจารย์อาโอยาม่า รวมทั้งมีห้องจำลองที่จำลองห้องทำงานของผู้เขียนอีกทั้งยังเล่าถึงประวัติความเป็นมาของการ์ตูนโคนันอีกด้วย ว่าก่อนจะมาเป็นโคนันนั้นต้องผ่านเรื่องราวอย่างไรมาบ้างหากคุณอยากทราบก็สามารถไปสัมผัสได้ที่นี่ อีกทั้งยังมีกิจกรรมที่คุณสามารถร่วมสนุกได้อีกมากมายสำหรับการเดินทางมาที่นี่ก็ไม่ยากสามารถนั่งรถไฟหรือรถบัสมาก็ได้ มีค่าเข้าชมประมาณ 700 เยนสำหรับผู้ใหญ่และสำหรับเด็กที่อยู่ในชั้นมัธยมจะอยู่ที่ประมาณ 500 เยนและเด็กๆจะอยู่ที่ประมาณ 300 เยน จะเปิดให้นักท่องเที่ยวและผู้เข้าชมสามารถเข้าชมได้ตั้งแต่ช่วงเวลา 9:30 น จนถึง 17:30 น. แต่สามารถเข้าชมภายในพิพิธภัณฑ์ได้ถึงเวลาไม่เกิน 17:00 น  2.Mizuki Shigeru Road ตามรอยภูตน้อย คิตาโร่  เราจะไปต่อกันกับอีกหนึ่งสถานที่ที่ Mizuki Shigeru Road ตามรอยภูตน้อย […]