5 สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองซัปโปโร ที่น่าไปเยือนสักครั้งในปี 2022 !

ยังคงอยู่กันในประเทศญี่ปุ่นเช่นเคย ได้พาคุณไปท่องเที่ยวกันมาหลายจังหวัดแล้ว ซึ่งในครั้งนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 5 สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองซัปโปโร ที่น่าไปเยือนสักครั้งในปี 2022 ! บ้าง สำหรับสิ่งที่เราได้นำมาฝากคุณกันในครั้งนี้ก็คือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่อยู่ในฝั่งซัปโปโร ซึ่งแน่นอนว่าการท่องเที่ยวในฝั่งนี้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับในช่วงฤดูหนาว ที่มีหิมะสีขาวร่วงหล่นปกคลุมตามพื้นที่ต่างๆทำให้เราสามารถเก็บภาพประทับใจได้เป็นอย่างดี และสถานที่สุดฟินเหล่านั้นจะมีที่ใดบ้าง หากอยากทราบกันแล้วต้องอย่ามัวแต่รอช้ารอ เราไปชมพร้อมๆกันได้เลยดังนี้ 1.สวนศิลปะ Sapporo Art Park จะพาคุณไปเริ่มต้นกันที่ สวนศิลปะ Sapporo Art Park ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่เหมาะสำหรับคนที่รักศิลปะอย่างมาก เพราะมีกิจกรรมต่างๆให้คุณเลือกทำอย่างมากมาย และสามารถทำร่วมกับครอบครัวได้อย่างลงตัวกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบ้านที่มีเด็กๆต้องขอบอกเลยว่าห้ามพลาด เพราะจะทำให้คุณและคุณหนูๆสามารถเพลิดเพลินกันได้ทั้งวันแบบไม่น่าเบื่อ เนื่องด้วยในสวนศิลปะแห่งนี้อุดมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆให้กับผู้เข้าชมอย่างมากมาย ซึ่งในศูนย์แห่งนี้ได้มีการจัดนิทรรศการศิลปะออกมาอย่างสม่ำเสมอและมีให้เข้าชมได้ในทุกฤดูกาล มีการนำความงามจากธรรมชาติของฮอกไกโดมาผสมผสานกับความเป็นศิลปะ ซึ่งคุณสามารถมองเห็นได้ตั้งแต่สิ่งปลูกสร้างของทางเข้า นอกจากจะมีทัศนียภาพที่สวยงามให้คุณได้ชื่นชมแล้วคุณยังสามารถสัมผัสกับบรรยากาศและอากาศดีๆของธรรมชาติได้อย่างเต็มอิ่มอีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่หากคุณมาเยือนเมืองซัปโปโรแล้วต้องไม่ควรพลาด และหากคุณกำลังต้องการไปสถานที่แห่งนี้ ก็สามารถเข้าชมข้อมูลของการเปิดให้บริการเพิ่มเติม ได้จากลิงค์ด้านล่างที่เรานำมาฝากกันได้เลย ข้อมูลเพิ่มเติมของ สวนศิลปะ Sapporo Art Park : https://artpark.or.jp/ 2. สวนสาธารณะมารุยาม่า Maruyama Park และอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความน่าสนใจของเมืองนี้ก็คือ สวนสาธารณะมารุยาม่า Maruyama Park ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่มีความสวยงามและอุดมไปด้วยธรรมชาติอย่างยิ่งมีชื่อเสียงโด่งดัง […]
ความเป็นมาของเทศกาลดอกไม้ไฟ พร้อมสถานที่จัดงานสุดอลังการณ์ของประเทศญี่ปุ่น!

ยังคงอยู่กันในประเทศญี่ปุ่นเช่นเคยและเมื่อฤดูกาลแห่งการชมดอกไม้ไฟมาถึง เราเชื่อว่าใครหลายคนจะต้องกำลังมองหาสถานที่ในการชมดอกไม้ไฟกันอยู่อย่างแน่นอน และจะดีแค่ไหนหากการได้จูงมือใครสักคนไปชมด้วยกัน ในครั้งนี้เราจึงได้รวบรวมเรื่องราวของ ความเป็นมาของเทศกาลดอกไม้ไฟ พร้อมสถานที่จัดงานสุดอลังการณ์ของประเทศญี่ปุ่น ! มาฝากคุณกันไว้ที่นี่เพราะเราเชื่อว่าจะต้องเป็นประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่านที่ต้องการทราบถึงรายละเอียดต่างๆ ของเทศกาลดอกไม้ไฟ รวมทั้งแหล่งชมดอกไม้ไฟที่สวยงามในประเทศญี่ปุ่นกันมากยิ่งขึ้น หากอยากทราบกันแล้วว่าจะมีความเป็นมาอย่างไร และแต่ละสถานที่ที่เรานำมาฝากนั้นจะน่าสนใจขนาดไหน ต้องอย่ารอช้าเราไปชมพร้อมๆกันได้เลยดังนี้ ความเป็นมาของเทศกาลดอกไม้ไฟ สำหรับตำนานและจุดเริ่มต้นของดอกไม้ไฟในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีหลากหลายเรื่องราวที่ถูกเล่าขานต่อๆกันมา แต่ครั้งนี้เราจะขออนุญาตย้อนไปในช่วงราวๆศตวรรษที่ 16 ซึ่งได้มีท่านโชกุนคนแรกของประเทศญี่ปุ่น ที่มีชื่อว่า โทกุกาวะ อิเอยาสุ ซึ่งในขณะนั้นท่านได้รับของกำนัลจากพระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งประเทศอังกฤษ ซึ่งของกำนันนั้นก็คือดอกไม้ไฟ และหลังจากนั้นก็ได้รับของกำนัลจากกลุ่มพ่อค้าชาวจีน จนกลายเป็นความนิยมของกลุ่มขุนนางและผู้ที่มียศฐาบรรดาศักดิ์ต่างๆแห่งเมืองเอโดะ ต่อมาในช่วงปีค. ศ. 1733 ได้มีการจัดเทศกาลเพื่อบูชาเทพแห่งสายน้ำที่มีชื่อว่า Suijinsai ขึ้น ซึ่งได้มีการจัดเทศกาลดอกไม้ไฟนี้เกิดขึ้นที่แม่น้ำสุมิดะ สำหรับการจัดงานนี้เพื่อเป็นการอุทิศและปัดเป่าภัยร้ายต่างๆและเป็นการอุทิศให้กับเหล่าวิญญาณที่ล่วงลับไปแล้ว สำหรับเทศกาลนี้มักจะถูกจัดขึ้นในช่วงฤดูร้อนของทุกๆปี และยังคงจัดกันมาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงในยุคปัจจุบัน ซึ่งลักษณะของดอกไม้ไฟในแบบต่างๆ ก็มีอยู่หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นทรงกลม ทรงหัวใจ ซึ่งดูแล้วจะถูกบรรจุอยู่ในเปลือกทรงกลม ซึ่งแตกต่างจากเปลือกดอกไม้ไฟของประเทศอื่นๆ จากนั้นเมื่อต้องการจุดก็สามารถจุดไฟตรงปลายกระบอกได้เลย จากนั้นไฟก็จะพุ่งขึ้นไปบนฟ้าแล้วก็จะกระจายออกอย่างงดงามให้เราได้ชม สำหรับการแต่งกายเพื่อไปชมดอกไม้ไฟนั้นในปัจจุบัน ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงนิยมสวมใส่ชุดยูกาตะเพื่อไปชมดอกไม้ไฟ (ตัวอย่างของชุดยูกาตะคุณสามารถรับชมจากภาพด้านบนที่เรานำมาฝากกันนี้ได้เลย) และถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน แต่สำหรับท่านที่ไม่สะดวกก็สามารถสวมชุดธรรมดาที่มีเนื้อผ้านุ่มเบาบางสวมใส่สบายไปชมก็ได้ เนื่องจากเทศกาลดอกไม้ไฟนั้นส่วนใหญ่แล้วมักจะจัดในฤดูร้อนและในช่วงฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่นนั้น ค่อนข้างร้อนมากในบางปีอาจร้อนมากกว่าเมืองไทยด้วยซ้ำ จึงแนะนำว่าคุณอาจจะสวมกางเกงขาสั้นและแต่งตัวสบายๆไปชมจะดีกว่า เพียงแต่แต่งกายให้สุภาพและให้เกียรติสถานที่ก็น่าจะเพียงพอ 1. งานเทศกาลดอกไม้ไฟฟุคุโรอิ […]
รื่นรมย์ไปกับบรรยากาศสุดโรแมนติกของ 5 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในเมืองโตเกียว ที่ไม่ควรพลาดหากได้ไปเยือน !

ยังคงอยู่กันในประเทศญี่ปุ่นกันเช่นเคยสำหรับสัปดาห์นี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้พาคุณไปรู้จักกับจุดชมดอกไม้เปลี่ยนสีของภูมิภาคต่างๆกันมาพอสมควร ในครั้งนี้เราจะพาคุณไป รื่นรมย์ไปกับบรรยากาศสุดโรแมนติกของ 5 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในเมืองโตเกียว ที่ไม่ควรพลาดหากได้ไปเยือน ! กันบ้าง เพราะเราเชื่อว่าในเมืองโตเกียวยังคงมีอะไรดีๆให้น่าค้นหากันอีกมากมาย ซึ่งในครั้งนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับแต่ละสถานที่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพราะเป็นช่วงที่ใบไม้และพืชพรรณนานาชนิดกำลังต่างเปลี่ยนสี รวมทั้งมีอากาศที่กำลังดีซึ่งเหมาะแก่การเยี่ยมชมอย่างยิ่ง หากคุณได้มีโอกาสไปเยือนเมืองโตเกียว ต้องไม่ควรพลาดกับพิกัดต่างๆที่เรากำลังจะพาคุณไปรู้จักกันในครั้งนี้ หากอยากทราบกันแล้วว่ามีที่ใดน่าสนใจบ้าง ต้องอย่ารอช้าเราไปชมพร้อมๆกันได้เลยดังนี้ 1.สวนโคอิชิกาว่า โคระคุเอน(Koishikawa Korakuen) เราจะพาคุณมาเริ่มต้นกันที่ สวนโคอิชิกาว่า โคระคุเอน(Koishikawa Korakuen) สำหรับสวนแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นส่วนที่อุดมไปด้วยต้นเมเปิ้ล และในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้น ใบเมเปิ้ลก็จะทำการเปลี่ยนสีและร่วงหล่นไปตามพื้นอย่างสวยงามราวกับฉากในภาพวาด ส่วนใหญ่แล้วมักจะเริ่มเปลี่ยนสีในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนในทุกๆปี ซึ่งภายในสวนแห่งนี้มีสระน้ำขนาดกลางมากถึง 3 แห่ง นอกจากชมวิวของใบไม้เปลี่ยนสีกันแล้วคุณยังสามารถไปนั่งพักผ่อนหย่อนใจได้อีกด้วย ศูนย์แห่งนี้เป็นสวนในสไตล์ญี่ปุ่นและมีความดั้งเดิมในแบบญี่ปุ่นสูงได้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ในช่วงยุคสมัยเอโดะตอนต้นหรือประมาณปี ค.ศ. 1600-1867 จึงทำให้คุณรู้สึกสัมผัสถึงบรรยากาศอันแสนคลาสสิคของที่นี่ได้แบบเต็มๆ และหากคุณไปยืนที่บริเวณกลางสะพานข้ามบ่อน้ำคุณก็จะได้ภาพสวยๆที่เก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกให้นึกถึงว่าครั้งหนึ่งเคยได้มาที่นี่ สวนแห่งนี้ไม่ได้เปิดเพียงเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้นแต่ยังเปิดตลอดทุกฤดูกาลยกเว้นในช่วงปีใหม่จะทำการหยุด ดังนั้นคุณสามารถเข้ามาชมได้ในทุกๆฤดูได้มาเยือนที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว ที่เหมาะสำหรับการชมฤดูใบไม้เปลี่ยนสีอย่างยิ่งในเมืองโตเกียว 2.สวนโชวะ คิเนน(Showa Kinen Park) จะพาคุณมาต่อกันที่ สวนโชวะ คิเนน(Showa Kinen Park) สวนแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับจักรพรรดิโชวะเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี เรียกได้ว่าเป็นสวนที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งมีพื้นที่มากถึง 16300 […]
ดื่มด่ำบรรยากาศสุดโรแมนติกไปกับ 5 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีของฝั่งโทโฮคุ ที่ต้องไม่ควรพลาดแห่งปี 2022 !

ยังคงอยู่กันในประเทศญี่ปุ่นและยังคงอยู่กันในภูมิภาคโทโฮคุ เมื่อฤดูกาลแห่งความโรแมนติกมาถึงใครหลายคนก็มักจะมองหาสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ เพื่อจูงมีคนรักไปชมดอกไม้เปลี่ยนสี ซึ่งในครั้งนี้เราจะพาคุณไป ดื่มด่ำบรรยากาศสุดโรแมนติกไปกับ 5 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีของฝั่งโทโฮคุ ที่ต้องไม่ควรพลาดแห่งปี 2022 ! ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการรวบรวมสถานที่เจ๋งๆทีมีความสวยงาม เหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการจูงมือกันไปพักผ่อนอย่างแท้จริง อีกทั้งยังรายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่งดงามทำให้คุณต้องตะลึงต่อสายตาและตาตึงต่อจิตใจเมื่อได้พบเห็นกันอย่างแน่นอน หากอยากทราบกันแล้วว่าแต่ละสถานที่จะมีที่ใดน่าสนใจและน่าไปกันบ้างอย่ารอช้าเราไปชมพร้อมกันได้เลยดังนี้ 1.ถนนโจเซนจิโดริ (Jozenji-dori Ave) จังหวัดมิยางิ (Miyagi) สำหรับสถานที่แรกที่มีชื่อว่า ถนนโจเซนจิโดริ (Jozenji-dori Ave) จังหวัดมิยางิ (Miyagi) ซึ่งรายล้อมไปด้วยต้นไม้และใบไม้เปลี่ยนสีที่มีความงดงาม จากภาพด้านบนคุณจะเห็นถึงความถึงความเหลืองอร่ามของสีใบไม้ ทั้งสองข้างทางของถนนเส้นนี้จะรายล้อมไปด้วยต้นไม้พี่ภาพยาวไกลถึง 700 เมตร จึงทำให้ถูกขนานนามกันว่าเป็นเมืองแห่งต้นไม้ ซึ่งในช่วงฤดูร้อนก็จะมองเห็นถึงความเขียวขจี และในช่วงฤดูเขาก็จะมองเห็นถึงสีขาวโพลนที่ปกคลุมไปด้วยหิมะที่สวยงามไปอีกแบบ ส่วนใหญ่แล้วผู้คนมักมาชมต้นไม้ใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งคุณสามารถมาเที่ยวชมในสถานที่แห่งนี้ได้โดยไม่มีการเก็บค่าเข้าชมใดๆทั้งสิ้น สามารถเดินเล่นและถ่ายภาพแบบชิลล์ๆ กับเพื่อนๆได้เลย สำหรับการเดินทางมาที่นี่ก็ไม่ยากเพียงคุณนั่งรถบัสมาลงยังป้าย Jozenji-dori Ave ก็สามารถถึงถนนเส้นนี้ได้แบบไม่ต้องกลัวหลง เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่มีบรรยากาศสุดโรแมนติกแบบสุดๆในช่วงฤดูใบไม้ร่วงกันเลยทีเดียว 2.หมู่บ้านน้ำพุร้อน นิวโตะอนเซ็น (Nyuto Onsen Hot Springs Village) จังหวัดอาคิตะ (Akita) จะพาคุณมายังเมืองอาคิตะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีกันบ้างกับสถานที่ที่มีชื่อ หมู่บ้านน้ำพุร้อน นิวโตะอนเซ็น (Nyuto […]
5 สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดเฮียวโงะ ที่ไม่ควรพลาดในปี 2022!

ใครหลายคนอาจไม่ค่อยคุ้นหูกับชื่อของจังหวัดเฮียวโงะกันมากนัก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจังหวัดเก่าแก่ที่อยู่ในภูมิภาคคันไซนั่นเอง มีที่สถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่น่าสนใจและอาจจะทำให้คุณหลงเสน่ห์กันได้แบบง่ายๆและไม่ยากเย็นอีกด้วย จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 5 สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดเฮียวโงะ ที่ไม่ควรพลาดในปี 2022 ! เพราะเราเชื่อว่าจังหวัดแห่งนี้มีมนต์ขลังและมีเสน่ห์จนสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี ซึ่งในครั้งนี้แต่ละสถานที่ที่เราได้รวบรวมมาฝากคุณกันนั้น ล้วนแล้วแต่มีความน่าไปเยี่ยมชมอยู่ไม่น้อย และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปชมพร้อมๆกันเลยดีกว่า 1.คิโนซากิ ออนเซ็นดังแห่งคันไซ (Kinosaki Onsen) เราจะพาคุณมาเริ่มต้นกันกับสถานที่แห่งแรกที่มีชื่อว่า คิโนซากิ ออนเซ็นดังแห่งคันไซ (Kinosaki Onsen) ซึ่งเรียกได้ว่าบรรยากาศรอบข้างมีความงดงามที่เงียบสงบอย่างยิ่งและได้รับความนิยมมากในช่วงฤดูหนาวเพราะนอกจากคุณจะได้สัมผัสกับความสวยงามแล้ว คุณยังสามารถแช่น้ำร้อนท่ามกลางอุณหภูมิของความเหน็บหนาวได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนหลังจากที่เดินทางมาอย่างเหน็ดเหนื่อยแล้วทั้งวัน สำหรับการไปสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ยากเพียงคุณนั่งรถไฟไปลงที่สถานี Kinosaki Onsen จากนั้นก็ใช้เวลาเพียงประมาณไม่เกิน 15 นาทีในการเดินไปถึงแบบไม่ยุ่งยากมากนัก 2.ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) และอีกหนึ่งสถานที่ที่เราอยากจะพาคุณไปรู้จักก็ ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) สำหรับสถานที่แห่งนี้เรียกได้ว่ามีความสำคัญต่อจังหวัดเฮียวโงะเป็นอย่างมากในปัจจุบันได้มีการลงทะเบียนให้เป็นมรดกโลกยูเนสโกและเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย เป็นปราสาทที่มีความงดงามและมีสถาปัตยกรรมที่มีความเก่าแก่และอ่อนช้อยผู้คนให้สมญานามกับปราสาทแห่งนี้ว่า “ปราสาทนกกระยางขาว” สำหรับตัวอาคารนั้นมีความเก่าแก่และดั้งเดิมที่สุดเพราะไม่ได้มีการสร้างใหม่ เพราะรอดพ้นจากภัยธรรมชาติ และการโจมตีของข้าศึกต่างๆจึงเรียกได้ว่าแท้ทั้งอาคารกันเลยทีเดียว จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เหล่าบรรดานักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติต่างอยากเข้าชมสถาปัตยกรรมของปราสาทแห่งนี้ ซึ่งในปัจจุบันสามารถเข้าชมได้ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนไปจนถึงสิงหาคมและก็ปิดทำการในช่วงวันปีใหม่ของทุกปี และสำหรับช่วงที่มีเหตุการณ์การเเพร่กระจายเชื้อ covid19 นี้ ก็อาจจะยังคงปิดไม่ให้เข้าเยี่ยมชม ซึ่งคุณสามารถสอบถามได้ที่เว็บไซต์ของประสาทโดยตรงได้เลย 3.สะพานอากาชิไคเคียว (Akashi Kaikyo Bridge) […]
ต้องมนต์เสน่ห์แห่งเมืองศิลปะไปกับ 7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดทตโตริ !

ได้รู้จักสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆของแต่ละจังหวัด แต่ละภูมิภาคในประเทศญี่ปุ่นกันไปแล้วในครั้งนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับจังหวัดทตโทริกันบ้าง กลับหัวข้อ ต้องมนต์เสน่ห์แห่งเมืองศิลปะไปกับ 7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดทตโตริ ! ซึ่งแต่ละสถานที่ที่เราได้นำมาฝากกันในครั้งนี้ ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญและได้รับความนิยมจากบรรดานักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นสูง ถ้าอยากทราบกันแล้วว่าจะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างต้องอย่ารอช้าเรามาชมพร้อมๆกันได้เลยดังนี้ 1. Gosho Aoyama Manga Factory ตามรอยโคนัน สำหรับสถานที่แรกที่เราจะพาคุณไปรู้จักกันก็คือ Gosho Aoyama Manga Factory ตามรอยโคนัน ซึ่งหากใครที่เป็นแฟนคลับโคนันกันอยู่แล้วล่ะก็ต้องขอบอกเลยว่าคุณไม่ควรพลาด เพราะที่แห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมความเป็นมาของการ์ตูนโคนัน ซึ่งมีตั้งแต่ประวัติความเป็นมาของนักเขียนที่เขียนการ์ตูนเรื่องโคนันซึ่งก็คือ อาจารย์อาโอยาม่า รวมทั้งมีห้องจำลองที่จำลองห้องทำงานของผู้เขียนอีกทั้งยังเล่าถึงประวัติความเป็นมาของการ์ตูนโคนันอีกด้วย ว่าก่อนจะมาเป็นโคนันนั้นต้องผ่านเรื่องราวอย่างไรมาบ้างหากคุณอยากทราบก็สามารถไปสัมผัสได้ที่นี่ อีกทั้งยังมีกิจกรรมที่คุณสามารถร่วมสนุกได้อีกมากมายสำหรับการเดินทางมาที่นี่ก็ไม่ยากสามารถนั่งรถไฟหรือรถบัสมาก็ได้ มีค่าเข้าชมประมาณ 700 เยนสำหรับผู้ใหญ่และสำหรับเด็กที่อยู่ในชั้นมัธยมจะอยู่ที่ประมาณ 500 เยนและเด็กๆจะอยู่ที่ประมาณ 300 เยน จะเปิดให้นักท่องเที่ยวและผู้เข้าชมสามารถเข้าชมได้ตั้งแต่ช่วงเวลา 9:30 น จนถึง 17:30 น. แต่สามารถเข้าชมภายในพิพิธภัณฑ์ได้ถึงเวลาไม่เกิน 17:00 น 2.Mizuki Shigeru Road ตามรอยภูตน้อย คิตาโร่ เราจะไปต่อกันกับอีกหนึ่งสถานที่ที่ Mizuki Shigeru Road ตามรอยภูตน้อย […]
โรงแรมหรูบริการเยี่ยม ที่น่าพักแห่งภูมิภาคคันไซ ในประเทศญี่ปุ่น !

ภูมิภาคคันไซทางตะวันตกของญี่ปุ่นเป็นดินแดนที่สำคัญทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของประเทศ ประกอบด้วย 6 จังหวัด ได้แก่ โอซาก้า เกียวโต เฮียวโกะ ชิงะ นารา และวาคายามะ ด้วยสมบัติของชาติและความเป็นแหล่งรวมมรดกโลกอย่างมากมายจึงทำให้ใครๆก็อยากได้ลองสัมผัส ครั้งนี้เราจะมาพูดถึง โรงแรมหรูบริการเยี่ยม ที่น่าพักแห่งภูมิภาคคันไซ ในประเทศญี่ปุ่น ! ที่ได้รวมสถานที่พักสุดหรูของฝั่งคันไซมารวมไว้ให้คุณได้รู้จักกันที่นี่ เพราะเราเชื่อว่าอาจเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านที่กำลังมองหาที่พักดีๆเอาไว้พักผ่อน และชิลล์ไปกับธรรมชาติกันอย่างแน่นอน เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามาพบกับโรงแรมดีๆบริการเยี่ยมๆกันเลยดีกว่าๆ 1. InterContinental Osaka โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล โอซาก้า ระดับ 5 ดาวเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่พัฒนาใหม่เอี่ยมของแกรนด์ ฟรอนท์ โอซาก้า โดยใช้เวลาเดินเพียง 5 นาทีจากสถานีโอซาก้าและอุเมดะ มีห้องพักจำนวน 272 ห้องมีขนาดมากกว่า 50 ตร.ม. ทำให้แขกรู้สึกมีอิสระและใช้พื้นที่ได้อย่างแท้จริง สำหรับการเข้าพักระยะยาว เราขอแนะนำที่พักชั้นบน เพราะมีห้องรับประทานอาหาร ห้องครัว เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร และเครื่องซักผ้าไว้รออำนวยความสะดวกให้กับคุณ สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เหมาะสำหรับผู้เข้าพักแบบกลุ่มใหญ่ที่ใช้เวลาในโอซาก้าเป็นเวลานานและต้องการอยู่เหมือนบ้าน อินเตอร์คอนติเนนตัล โอซาก้า ต่างจากโรงแรมระดับไฮเอนด์ส่วนใหญ่ตรงที่มีอ่างอาบน้ำสไตล์ญี่ปุ่นขนาดใหญ่ที่ใช้ร่วมกัน ซึ่งชวนให้นึกถึงรีสอร์ทบ่อน้ำพุร้อน! ทางโรงแรมยังมีสระว่ายน้ำที่กว้างขวาง ยิม และร้านเสริมสวยพร้อมทรีตเมนต์ไว้คอยมอบความผ่อนคลาย […]
ชมวิวอ่าวโอซาก้ามุมสูงบนชิงช้าสวรรค์ที่ Tempozan Ferris Wheel

ภายในเมืองโอซาก้ามีชิงช้าสวรรค์ยักษ์สำหรับขึ้นไปชมวิวอยู่ 2 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งก็มีวิวที่สวยแตกต่างกันออกไปครับ ส่วนวันนี้ที่เราจะไปกัน คือที่ “Tempozan Ferris Wheel” ซึ่งที่นี่จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง เดี๋ยวเราไปดูพร้อมๆ กันเลยครับ เครดิตรูป https://goo.gl/maps/q58xR6yzvVDDoFga6 Tempozan Ferris Wheel นั้น ตั้งอยู่ที่ Tempozan Harbor Village ใกล้ๆ กับสวนอาหารนานิวะ กับ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง เป็นชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่สีขาว และมีตู้กระเช้าสีสันสดใส สามารถมองเห็นได้แต่ไกล ด้วยวิวที่สวย เดินทางสะดวก แถมใกล้ๆ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ด้วย จึงทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตอีกที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวมักจะไม่พลาดที่จะมากัน เครดิตรูป https://goo.gl/maps/q58xR6yzvVDDoFga6 ชิงช้าสวรรค์ Tempozan Ferris Wheel นั้น ในปี 1997 เคยถูกบันทึกไว้ว่าเป็นชิงช้าสวรรค์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 100 เมตร และการหมุน 1 รอบนั้น ใช้เวลาทั้งสิ้น 15 นาที ซึ่งเราสามารถเลือกตู้กระเช้าได้ […]
Osaka Shudokan ชูโดกัง โรงฝึกศิลปะป้องกันตัวในโอซาก้า

ในอดีตการฝึกศิลปะป้องกันตัว คือการลับคมมีดให้กับตัวเอง เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเพื่อเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับศึกสงคราม และสถานที่ฝึกซ้อมฝีมือ หรือ โรงฝึกนั้น ปัจจุบันก็ยังมีการสืบทอดมาอยู่ อย่างเช่นในบริเวณพื้นที่ของปราสาทโอซาก้า ก็มี Osaka Shudokan ด้วยเช่นกันครับ เครดิตรูป https://goo.gl/maps/iP7URcCfKurXsftAA เครดิตรูป https://goo.gl/maps/iP7URcCfKurXsftAA เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ศิลปะป้องกันตัว เปลี่ยนเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งที่นอกจากจะเอาไว้ใช้ป้องกันตัวได้แล้ว ยังสามารถใช้เป็นการออกกำลังกายได้อย่างดีอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นเหมือนกับเกมส์กีฬา โดยมีการจัดการแข่งขันกันเกี่ยวกับศิลปะป้องกันตัวทั้งในระดับโรงเรียน ไปจนถึงระดับโลกอีกด้วย เครดิตรูป https://goo.gl/maps/iP7URcCfKurXsftAA เครดิตรูป https://goo.gl/maps/iP7URcCfKurXsftAA ในประเทศญี่ปุ่นก็มีการสืบทอดศิลปะป้องกันตัวต่อๆ กันมาจากอดีต รวมไปถึงสถานที่ฝึกซ้อมที่เรียกว่า “โรงฝึก” อีกด้วย ที่เมืองโอซาก้า ในบริเวณของพื้นที่ของปราสาทโอซาก้า มีโรงฝึกอยู่แห่งหนึ่งชื่อว่า “Shudokan” เป็นที่ๆ ใช้ฝึกซ้อมศิลปะป้องกันตัวหลายแขนง อาทิเช่น เคนโด้ ไอคิโด้ คาราเต้ ยูโด หรือแม้แต่ คิวโด(การยิงธนูญี่ปุ่น) ก็มีครับ ชื่อ “ชูโดกัง” ถูกตั้งขึ้นโดยนายกเทศมนตรี นาคาอิ ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในสมัยนั้น โดยท่านหวังว่า โรงฝึกแห่งนี้จะเป็นจุดศูนย์รวมของหนุ่มสาววัยรุ่นยุคใหม่ที่หลงใหลในการฝึกศิลปะการต่อสู้และมีวิถีการฝึกที่ดี คือ มีการฝึกฝนทั้งร่างกายและจิตใจให้เข้มแข็งอยู่เสมอ เครดิตรูป https://goo.gl/maps/iP7URcCfKurXsftAA เครดิตรูป https://goo.gl/maps/iP7URcCfKurXsftAA โรงฝึกชูโดกัง […]
ตลาด Kuromon Ichiba Market …ห้องครัวใหญ่ของชาวโอซาก้า

ไหนๆ ก็ได้มาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งที ผมก็อยากให้ได้ลองทานอะไรอร่อยๆ หรืออะไรที่หาทานยากในไทย สิ่งนึงเลยที่ผมอยากแนะนำว่าไม่ควรพลาด นั่นคืออาหารทะเลครับ โดยเฉพาะใครที่มาเที่ยวที่เมืองโอซาก้า ผมมีแหล่งอาหารทะเลสดๆ มาแนะนำกัน ซึ่งจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้เลย นอกจากที่ “Kuromon Ichiba Market” ตลาดสดอันดับหนึ่งของเมืองโอซาก้านั่นเองครับ เครดิตรูป https://goo.gl/maps/a3mNDcTSFmDeA7HFA เครดิตรูป https://goo.gl/maps/a3mNDcTSFmDeA7HFA เมืองเกียวโตมีตลาดนิชิกิเป็นครัวของเมืองฉันใด เมืองโอซาก้าก็มีตลาด Kuromon Ichiba เป็นครัวของเมืองด้วยฉันนั้น ซึ่งตลาด Kuromon Ichiba นั้น เป็นตลาดเก่าแก่ อยู่คู่กับเมืองโอซาก้ามาอย่างยาวนาน โดยเริ่มสร้างขึ้นในสมัยเมจิ เมื่อปี 1902 โดยแต่เดิมเป็นเพียงตลาดเล็กๆ เท่านั้น แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ตลาดก็เติบโตตามไปด้วยจนกลายเป็นตลาดที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน เครดิตรูป https://goo.gl/maps/a3mNDcTSFmDeA7HFA เครดิตรูป https://goo.gl/maps/a3mNDcTSFmDeA7HFA ปัจจุบันตลาด Kuromon Ichiba เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มาก มีความยาวกว่า 600 เมตร โดยทั้งสองฝั่งของทางเดิน มีร้านค้าเปิดให้บริการมากกว่า 170 ร้านค้าเลยทีเดียว โดยสินค้าหลักส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารทะเล ผัก เนื้อสัตว์ […]