คาเฟ่ที่เหมาะแก่การผ่อนคลาย ที่น่าไปในย่านชิบูย่าแห่งปี 2023 !

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าในย่านชิบูย่านั้นเป็นแหล่งของวัยรุ่น และรายล้อมไปด้วยสินค้าแฟชั่นมากมายอีกทั้งยังมี shop แบรนด์เนมที่มีชื่อเสียงระดับโลกตั้งอยู่ให้เราบรรดาแฟชั่นนิสต้าได้เลือกสรร อย่างไรก็ตามในครั้งนี้เราไม่ได้จะพาคุณมารู้จักกับแฟชั่นเพิ่มเติมแต่เราจะพาคุณมารู้จักกับ คาเฟ่ที่เหมาะแก่การผ่อนคลาย ที่น่าไปในย่านชิบูย่าแห่งปี 2023 !ซึ่งอยู่ในย่านกลางใจแหล่งวัยรุ่นเช่นนี้และแน่นอนว่าแต่ละคาเฟ่ที่เราได้หยิบมาฝากกันในครั้งนี้ต้องมีความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ชิบูย่าอย่างแน่นอนดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามาพบกับสาระที่น่าสนใจในเรื่องนี้กันเลยดีกว่า 1. Emma Lounge Emma Lounge เป็นคาเฟ่ที่ซ่อนตัวอยู่ในอาคาร Dogenzaka ที่มีผู้เช่าหลายราย โดยภายในมีพื้นที่กว้างขวาง การตกแต่งภายในมีความคลาสสิกมากจนทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ประเทศทางฝั่งยุโรปมีการตกแต่งที่ค่อนข้างหรูหรารวมถึงอาหารการกินที่มีไว้ให้บริการก็ค่อนข้างเป็นเมนูที่ผสมผสานระหว่างสไตล์ญี่ปุ่นกับสไตล์ตะวันตกอย่างเด่นชัดนอกจากนี้เครื่องดื่มและกาแฟก็มีรสชาติหอมอร่อยกลมกล่อมมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามหากคุณได้มาเยือนสถานที่แห่งนี้คุณจะสามารถผ่อนคลายไปกับบรรยากาศและหากคุณเป็นผู้ที่ชื่นชอบการอ่านหนังสือสถานที่แห่งนี้มีหนังสือภาษาอังกฤษให้คุณสามารถหยิบอ่านได้ หรือคุณจะนำหนังสือมาเองก็ได้เพราะมีเก้าอี้ที่นั่งที่แสนสบายเตรียมไว้รองรับคุณ นอกจากนี้ยังมี WiFi ฟรีให้คุณได้ใช้อีกทั้งยังมีที่นั่งสำหรับทำงานมีปลั๊กให้คุณเสียบ Notebook หรือชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือได้อย่างจุใจกันเลยทีเดียวนอกจากนี้การบริการของพนักงานค่อนข้างทำให้แขกผู้มาใช้บริการประทับใจเนื่องจากพวกเขาจะบริการคุณอย่างเต็มที่ หากคุณต้องการอะไรสามารถติดต่อสอบถามพนักงานได้ทุกเมื่อ หากคุณสนใจต้องการไปคาเฟ่แห่งนี้สามารถเข้าชมรายละเอียดจากลิงค์ทางด้านล่างได้เลย เปิด: 11:30-24:00 น. 7 วันต่อสัปดาห์ ที่อยู่: Social Building, 1-14-9, Dogenzaka, Shibuya-ku, Tokyo (Google Map) 2. Shibuya City Lounge Shibuya City Lounge ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของ Shibuya Loft ซึ่งสะดวกมาก […]
ร้านเบเกอรี่ยอดนิยมของคนท้องถิ่นในเกียวโต !

เมื่อคุณนึกถึงอาหารในเกียวโต อาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมอาจเป็นสิ่งแรกที่นึกถึง แต่คุณอาจแปลกใจที่พบว่าผู้คนในเกียวโตบริโภคขนมปังมากที่สุดในญี่ปุ่น จึงมีร้านเบเกอรี่ตั้งเรียงรายตามท้องถนนในเกียวโต วันนี้เราจะมาพูดถึงร้านเบเกอรี่ยอดนิยมของคนท้องถิ่นในเกียวโต ! ที่ขายขนมปังและขนมอบอันได้รับความนิยมในหมู่ชาวญี่ปุ่นมาหลายชั่วอายุคน เช่น ขนมปังแกงกะหรี่และอันปัง นอกจากนี้ยังมีร้านค้าที่ขึ้นชื่อเรื่องขนมปังเนื้อแน่น เช่น บาแกตต์และเบเกิลอีกมากมายมาให้คุณได้รู้จัก เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปชมรายละเอียดพร้อมๆกันได้เลย ทามากิ-เทอิ ร้านนี้สมควรได้รับการขนานนามว่าเป็นราชาแห่งร้านเบเกอรี่ในเกียวโต แฟนๆ ทั้งหลายหลั่งไหลมาที่ร้านทามากิ-เทจากทั่วประเทศ ร้านเบเกอรี่นี้ภูมิใจนำเสนอขนมปังเนื้อแข็งโดยเฉพาะขนมปังบาแกตต์ ในขณะที่ยังเสิร์ฟคาสครูต (แซนวิชบาแก็ต) แสนอร่อย ขนมปังยัดไส้เบคอน และขนมอบไส้ถั่วดำทันบะหวานและส่วนผสมอื่นๆมากมายอีกด้วย ใครๆก็รู้ว่าเบเกอรี่ร้านนี้พิถีพิถันในเรื่องคุณภาพของแป้งเป็นพิเศษขนาดไหน และก็ไม่ได้หวงส่วนผสมเพิ่มเติมใดๆ เช่นกัน เช่น แกงกะหรี่สำหรับขนมปังแกงกะหรี่หรือไก่ย่าง Tamaki-Tei โดยรวมแล้วมีราคาแพงกว่าร้านเบเกอรี่อื่น ๆ แต่เพียงกัดไปหนึ่งคำก็จะพิสูจน์ได้ทันทีว่าคุ้มค่า คุ้มค่ากับเวลาและเงินของคุณที่จะแวะร้านเบเกอรี่แห่งนี้เมื่อมาเยือนเกียวโต ชื่อ : ทามากิ-เทอิ ที่อยู่ : 57-14, Gokasho Hirano, Uji-shi, Kyoto รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.tamaki-tei.com fiveran เนื่องจากร้านนี้ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจ ร้านเบเกอรี่แห่งนี้จึงเป็นที่นิยมในหมู่พนักงานออฟฟิศที่ทำงานในอาคารใกล้เคียง มีเคาน์เตอร์รูปพระจันทร์เสี้ยวชัดเจน มีการตกแต่งภายในแบบบูติกเมื่อมองแวบแรก หากมองใกล้ๆ จะเผยให้เห็นขนมปังประเภทต่างๆ หลายสิบชนิดที่วางเรียงรายอยู่ ขนมปังบาแกตต์ทำจากน้ำในอัตราส่วนสูงสุด […]
งานศิลปะที่กินได้ “วากาชิ” ขนมญี่ปุ่นแสนสวยรสเลิศ ที่หากมาญี่ปุ่นแล้วจะต้องไม่ควรพลาดชิม !

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นเมืองวัฒนธรรมจึงอุดมไปด้วยอาหารและขนมโบราณอย่างมากมาย และอีกหนึ่งขนมที่น่าสนใจในประเทศญี่ปุ่นก็คือขนมวากาชิ ในครั้งนี้เราจะพาคุณมารู้จักขนมชนิดนี้กันในหัวข้อ งานศิลปะที่กินได้ “ขนมวากาชิ” อีกหนึ่งขนมแสนสวยรสเลิศที่หากมาญี่ปุ่นแล้วจะต้องไม่ควรพลาดชิม ! ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราจะมาบอกเล่าเรื่องราวถึงสิ่งที่น่าสนใจของขนมนี้ ให้คุณได้ทราบไปพร้อมๆกันกับบทความนี้กันเลยค่ะ “วากาชิ” แปลตรงตัวว่า “ขนมญี่ปุ่น” และครอบคลุมขนมพื้นเมืองดั้งเดิมหลากหลายชนิด แม้ว่าจะมีหลายวิธีในการจัดหมวดหมู่ของ wagashi ซึ่งโดยทั่วไปคือการแบ่งพวกมันออกเป็นสามประเภทได้แก่ “jo-namagashi,” “namagashi” กับ “han-namagashi” และ “higashi” “โจนามากาชิ” หมายถึงขนมหวานที่ทำจากวัตถุดิบคุณภาพสูง มักจะมีลักษณะที่สวยงาม ซึ่งเป็นตัวแทนของฤดูกาล “นามากาชิ” และ “ฮัน-นามากาชิ” เป็นขนมในชีวิตประจำวันที่มักมีเนื้อสัมผัสที่เคี้ยวง่าย จะมีรูปร่างหน้าตาที่เรียบง่ายกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับโจนามากาชิ และสุดท้ายคือ “ฮิงาชิ” ซึ่งแปลว่า “ลูกกวาดแห้ง” มันหมายถึงขนมที่แข็งขึ้นเช่นขนมที่มีน้ำตาลและแครกเกอร์ข้าว Dorayaki Wagashi มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานหลายศตวรรษ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วากาชิได้พัฒนาและมีความหลากหลายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขนมวากาชิรุ่นแรกๆ เป็นขนมง่ายๆ ที่ใช้ความหวานของผลไม้ ส่วนขนมทอดได้พัฒนามาจากอิทธิพลของจีนหลังจากนั้นไม่นาน ความหลากหลายมีมากขึ้นเมื่อวัฒนธรรมอาหารของญี่ปุ่นยังคงเติบโตเต็มที่ จนถึงยุคสมัยเอโดะ (1603 – 1867) หลังจากน้ำตาลถูกแพร่หลายมากขึ้น และน้ำตาลพันธุ์ที่เรารู้จักในปัจจุบันคือ โจนามากาชิ แม้ว่าจะมีอยู่ในวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ แต่ความนิยมของขนมวากาชิกำลังลดน้อยถอยลง […]
เครื่องปรุงยอดฮิตสำหรับทำอาหารญี่ปุ่น ที่คนญี่ปุ่นจะต้องมีติดครัว !

คุณรู้หรือไม่ว่าคุณสามารถทำอาหารญี่ปุ่นได้มากมายที่บ้าน แต่สิ่งที่คุณต้องมีคือเครื่องปรุงรส ซอส เครื่องปรุง และเครื่องเทศแบบญี่ปุ่นที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามหากคุณได้มีโอกาสไปเยือนประเทศญี่ปุ่นหรือต้องการซื้อเครื่องปรุงเพื่อทำอาหารญี่ปุ่นละก็เรื่องราว เครื่องปรุงยอดฮิตสำหรับทำอาหารญี่ปุ่น ที่คนญี่ปุ่นจะต้องมีติดครัว ! นี้จะต้องเป็นประโยชน์สำหรับคุณแน่นอน ขึ้นในบทความนี้พวกเราทีมงานได้รวบรวมเครื่องปรุงยอดฮิตที่ชาวญี่ปุ่นมักนำมาใช้ทำอาหารมาไว้ที่นี่เพื่อให้คุณได้รู้จักกันมากยิ่งขึ้น และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปรู้จักกับเครื่องปรุงในแต่ละชนิดของชาวญี่ปุ่นกันเลยดีกว่า น้ำตาล (Sato / 砂糖) อาหารญี่ปุ่นหลายชนิดค่อนข้างหวาน ทำให้น้ำตาลเป็นเครื่องปรุงรสที่ประเมินค่าไม่ได้ ประเภทของน้ำตาลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการปรุงอาหารคือ “โจฮาคุโตะ” (上白糖) ซึ่งเป็นน้ำตาลทรายขาวธรรมดา ที่เติมน้ำตาลกลูโคสและฟรุกโตสลงไป ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่ชุ่มชื้นกว่าแบบเม็ด น้ำตาลคาสเตอร์ (กูรันยูโตะ / グラニュー糖) ซึ่งส่วนใหญ่ใช้สำหรับการอบหรือทำเครื่องดื่มให้ความหวานก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เมื่อเร็ว ๆ นี้ผู้ที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้นค่อยๆ เปลี่ยนไปใช้น้ำตาลอ้อย (kibizato / きび砂糖) ซึ่งมีการกลั่นน้อยกว่าสองตัวเลือกข้างต้นมาก อีกตัวเลือกยอดนิยมคือน้ำตาลที่ทำจากหัวบีท (tensaito / てんさい糖) ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ไม่ผ่านการขัดสีซึ่งมีความหวานน้อยที่สุดในบรรดาตัวเลือกที่กล่าวมาข้างต้น แต่ยังเต็มไปด้วยสารอาหาร สุดท้ายคือน้ำตาลวาซันบอน (和三盆) ซึ่งให้ความรู้สึกเกือบเหมือนน้ำตาลผง และมีรสชาติดีมีคุณภาพสูงอย่างไม่น่าเชื่อ มักใช้ในการทำวากาชิ (ขนมญี่ปุ่นโบราณ) เกลือ (Shio / 塩) เกลือถูกนำมาใช้ในอาหารญี่ปุ่นมานานหลายศตวรรษเช่นเดียวกับหลายประเทศทั่วโลก เริ่มแรกใช้ถนอมอาหาร […]
8 ของกินท้องถิ่นจากเมืองนีงาตะ ที่หากได้มาเยือนแล้วต้องห้ามลืมซื้อกลับบ้าน !

เรียบร้อยแล้วสิ่งที่เราจะขาดไม่ได้เลยก่อนเดินทางกลับบ้านก็คือการหาชิมของอร่อยประจำท้องถิ่น พร้อมทั้งการหาซื้อของฝาก ซึ่งในครั้งนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 8 ของกินท้องถิ่นจากเมืองนีงาตะ ที่หากได้มาเยือนแล้วต้องห้ามลืมซื้อกลับบ้าน ! ที่พวกเราทีมงานได้รวบรวมของฝากแสนอร่อยมาไว้ที่นี่ เพื่อให้คุณได้รู้จักกับขนมพื้นบ้านของจังหวัดนีงาตะกันมากยิ่งขึ้น หากอยากทราบกันแล้วว่าของกินกินฝากที่น่าสนใจในเมืองนี้ จะมีอะไรน่าซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านกันบ้าง ต้องอย่ารอช้าเราไปชมพร้อมๆกันได้เลยดังนี้ได้เลยค่ะ 1.ไวน์ Iwanohara (岩の原ワイン) ของฝากชิ้นแรกที่เราจะพาคุณไปรู้จักก็คือ ไวน์ Iwanohara (岩の原ワイン) ซึ่งเป็นไวน์ที่ผลิตจากองุ่นไร่Iwanohara โดยปกติแล้วหิมะในเมืองนีงาตะนั้นจะมีปริมาณที่ค่อนข้างมาก เจ้าของไร่จึงมีไอเดียในการสร้างโกดังสำหรับเก็บหิมะ เพื่อนำมาไว้ใช้ตลอดปี และนอกจากนี้ยังมีห้องสำหรับเก็บไวน์ที่ใช้กรรมวิธีในการรักษาอุณหภูมิเอาไว้แบบธรรมชาติ โดยรักษาอุณหภูมิให้คงอยู่ประมาณ 17 องศาเซลเซียส ซึ่งถือเป็นการรักษามาตราฐานและคงความอร่อยเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม จึงไม่แปลกใจเลยว่าใครๆก็ต้องอยากซื้อกลับบ้าน ทราบอย่างนี้แล้วอย่าลืมไปลองชิมกันดูนะคะ 2.ถั่ว Chamame อีกหนึ่งของอร่อยที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมของคนญี่ปุ่น ที่ใครหลายคนมักจะต้องซื้อกลับบ้านหลังจากที่ได้ชิมแล้วเกิดติดใจขึ้นมาก็คือ ถั่ว Chamame ซึ่งเป็นถั่วที่คนญี่ปุ่นให้การยกย่องและเรียกได้ว่าอร่อยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นถั่วที่ปลูกในเขตคุโรซากิ ผู้คนส่วนใหญ่มักจะนำมารับประทานคู่กับเบียร์ จะมีลักษณะคล้ายๆกับถั่วและในบ้านเราแต่จะมีความใหญ่และเคี้ยวมันกว่า ถือเป็นอีกหนึ่งของฝากที่ขึ้นชื่อในย่านนี้ที่คุณไม่ควรพลาด 3.Poppo-yaki มาต่อกันกลับอีกหนึ่งของฝากที่หากใครได้ลองชิม ก็จะต้องติดใจและต้องซื้อกลับบ้านกันอย่างแน่นอน ซึ่งก็คือPoppo-yaki มองผิวเผินจะคล้ายกับขนมโตเกียวในบ้านเรา แต่สำหรับขนมชนิดนี้เคล็ดลับอยู่ที่การนำแป้งข้าวเหนียวมาทำเป็นแป้งและใช้ถั่วแดงในการทำไส้ ซึ่งจะนำถั่วแดงมากวนและมีกรรมวิธีในการปรุงรถที่ค่อนข้างพิถีพิถันและซับซ้อน และเป็นสูตรของชาวท้องถิ่นนีงาตะ อันเป็นเอกลักษณ์ที่ยากจะมีใครเหมือนถือเป็นอีกหนึ่งขนมที่หากได้มาในย่านนี้แล้วจะต้องห้ามพลาดชิม และเราเชื่อว่าหากคุณได้ชิมแล้วจะต้องอยากซื้อกลับบ้านกันอย่างแน่นอน 4.เหล้าสาเกของ นีงาตะ เมื่อใดก็ตามที่ได้เดินทางมาประเทศญี่ปุ่นของขึ้นชื่อที่หนุ่มหนุ่มชื่นชอบมากกว่าสิ่งใดก็คือสาเกซึ่งเหล้าสาเกของแต่ละท้องถิ่นก็มีความแตกต่างกันออกไป และในวันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ […]
7 ของฝากสุดชิคที่น่าซื้อไปฝากเพื่อน จากเมืองไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น ปี 2022 !

ได้รู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองไซตามะกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในครั้งนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 7 ของฝากสุดชิคที่น่าซื้อไปฝากเพื่อน จากเมืองไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น ปี 2022 ! ซึ่งเราหวังอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่านที่กำลังหา ของฝากสุดเก๋ของเมืองนี้กันอยู่อย่างแน่นอน จะมาอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้นต้องอย่ามัวแต่รอช้าเรามาชมไปพร้อมๆกันได้เลยดังนี้ 1.โค้ก Saitama สำหรับของฝากชิ้นแรกที่เราจะพาคุณไปรู้จักกันก็คือ โค้ก Saitama ซึ่งเป็นโค๊กที่เหมาะสำหรับการเก็บสะสม เนื่องจากถูกออกแบบให้มีเฉพาะและมีชื่อจังหวัดติดอยู่ที่กระป๋อง ซึ่งหากใครได้พบเห็นก็จะสามารถทราบได้ทันทีเลยว่ามาจากจังหวัดไซตามะอย่างแน่นอน เป็นอีกหนึ่งของฝากขึ้นชื่อที่ใครได้มาก็จะต้องมักซื้อกลับบ้าน 2.งานฝีมือ เช่น เซรามิค และสิ่งทอต่างๆ อีกหนึ่งของฝากก็คือ งานฝีมือ เช่น เซรามิค และสิ่งทอต่างๆ ซึ่งผ้าทอของจังหวัดไซตามะนี้มีเอกลักษณ์ที่ค่อนข้างเด่นชัด หากได้มาถึงที่นี่การได้ซื้อผ้าทอดีๆกลับไปฝากคนพิเศษสักผืนก็จะยิ่งสร้างความประทับใจให้กับผู้รับได้เป็นอย่างดี ถือเป็นหนึ่งของฝากที่เราไม่ควรพลาด 3.โกะคะโบ(Gokabo) และอีกหนึ่งของฝากสุดเก๋ที่จะพาคุณไปรู้จักก็คือ โกะคะโบ(Gokabo) ที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งขนมขึ้นชื่อของเมืองนี้ ซึ่งใครได้คนที่เคยได้ชิมก็มักจะติดใจซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านอยู่เสมอ มีลักษณะคล้ายกับขนมโคลลอนในบ้านเราแต่รสชาติมีความเป็นเอกลักษณ์ที่ยากจะหาที่ใดเหมือน ไส้ด้านในทำมาจากโมจิซึ่งมีความนุ่มและเหนียวมีความหนืดและเข้มข้ม อร่อย และมีกลิ่นหอมมากเพราะได้มีการโรยคินาโกะด้านบนด้วย ส่วนใหญ่มักจะนำมาทานคู่กับชาเขียว ถือเป็นอีกหนึ่งของฝากที่น่าสนใจ 4.สาเกไซตามะ มาต่อกับอีกหนึ่งของฝากสำหรับคุณผู้ชายที่ชื่นชอบการดื่มเหล้าสาเกกับ สาเกไซตามะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งของขึ้นชื่อของที่นี่ และมีชื่อเสียงดังทางฝั่งคันโตอย่างมาก มีรสชาติดี อีกทั้งยังมีการออกแบบขวดสำหรับใส่สาเกอย่างสวยงาม มีกรรมวิธีในการผลิตที่ค่อนข้างสะอาด ผลิตจากโรงกลั่นที่ได้คุณภาพจึงทำให้รสชาติของสาเกมีความอร่อยและมีความเป็นเอกลักษณ์ของย่านนี้อย่างมาก 5.ผักกาดขาวดอง และอีกหนึ่งของฝากขึ้นชื่อของเมืองไซตามะก็คือ […]
7 ของกินขึ้นชื่อแสนอร่อยจากเมืองฟุคุอิ แห่งปี 2022 ที่ต้องลองสักครั้งหากได้ไปเยือน !

หลังจากได้ท่องเที่ยวกันมาอย่างจุใจกันไปแล้ว ก็ต้องถึงช่วงเวลาของอาหารการกินกันบ้าง และสำหรับครั้งนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 7 ของกินขึ้นชื่อแสนอร่อยจากเมืองฟุคุอิ แห่งปี 2022 ที่ต้องลองสักครั้งหากได้ไปเยือน ! ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่เราได้มาเยือนจังหวัดฟุคุอินี้แล้วล่ะก็ เราจะต้องไม่ควรพลาดของอร่อยในเมนูไดกันบ้าง หากอยากทราบกันแล้วเราไปชมพร้อมๆกันได้เลยดีกว่าค่ะ 1. เฮชิโกะ เราจะพาคุณไปรู้จักกับเมนูแรกที่ควรทานหักมาในจังหวัดฟุคุอินี้แล้วซึ่งก็คือ เฮชิโกะ ซึ่งเป็นเมนูท้องถิ่นของผู้คนที่นี่ โดยการใช้ปลาที่มีลำตัวเป็นสีเงินมาประกอบอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเรามักจะเห็นในซาดีนและปลาซาบะ จากนั้นจะนำมาถนอมอาหารโดยการนำไปดองเกลือและทำการดองด้วยรำข้าวของญี่ปุ่น ทำการดองแบบวิธีโบราณ จนได้รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของผู้คนในจังหวัดฟุคุอินี้ จากนั้นก็จะนำมาโรยข้าว สามารถทานกับข้าวสวยร้อนๆหรือข้าวต้มและเดินไฟอ่อนๆตามภาพก็ได้ 2.วอลกาไรซ์ (Volga Rice) จะพาคุณไปต่อกันกับอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาดซึ่งก็คือ วอลกาไรซ์ (Volga Rice) ซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของผู้คนในจังหวัดนี้จะมีลักษณะเป็นอาหารที่คล้ายกับสไตล์ตะวันตก จะเป็นข้าวที่มีหมูชุบเกร็ดขนมปังทอด วางพาดเอาไว้บนข้าวห่อไข่ตามภาพด้านบนที่เราได้นำมาฝาก ในปัจจุบันผู้คนมักนิยมนำมาเสิร์ฟพร้อมกับแกงกะหรี่ญี่ปุ่น ซึ่งเมนูนี้เป็นอาหารขึ้นชื่อของเมืองเอาจิเซ็น ส่วนชื่อของวอลกาไรซ์นั้น ถูกเล่าต่อๆกันมาว่ามาจากชื่อแม่น้ำวอลก้าที่อยู่ในประเทศรัสเซีย เนื่องจากประเทศรัสเซียนั้นถือเป็นประเทศเพื่อนบ้านของญี่ปุ่น แต่เมนูนี้ก็ไม่ได้มีกันทั่วประเทศญี่ปุ่นหรือหาทานกันได้ง่ายๆทั่วไป หากคุณอยากทานก็ต้องเข้ามาลองชิมที่จังหวัดฟุกุอินี้ 3.เอจิเซ็นโอโรชิโซบะ (Echizen Oroshi Soba) เราจะพาคุณไปต่อกันที่ เอจิเซ็นโอโรชิโซบะ (Echizen Oroshi Soba) ที่ต้องขอบอกเลยว่าเป็นโซบะสูตรพิเศษเป็นอาหารท้องถิ่นของคนที่นี่ มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์อีกทั้งยังมีหน้าตาที่แปลกกว่าโซบะทั่วไปที่เราเคยพบเห็นในประเทศญี่ปุ่น ค่อนข้างได้รับความนิยมมากทางฝั่งตะวันออกของจังหวัดฟูกุอิ หรือในย่านเรโฮกุ ซึ่งผู้คนที่นี่จะนำครกหินมาใช้ในการบดโซบะซึ่งเป็นกรรมวิธีการทำโซบะแบบโบราณ […]
5 เมนูเด็ดขึ้นชื่อที่ต้องไม่ควรพลาด ของเมืองนางาซากิ แห่งปี 2022 !

ยังคงอยู่ในประเทศญี่ปุ่นกันเช่นเคย หลังจากที่สนุกสนานไปกับแต่ละสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดนางาซากิและเหนื่อยล้าจากการเดินทางกันมาทั้งวันแล้ว ได้เวลาที่จะพาคุณไปรู้จักกับ 5 เมนูเด็ดขึ้นชื่อที่ต้องไม่ควรพลาด ของเมืองนางาซากิ แห่งปี 2022 ! กันบ้างเพราะเรายังคงเชื่อว่ากองทัพย่อมเดินด้วยท้องเสมอเมื่อได้มาท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆกันอย่างจุใจไปแล้ว สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยคือการได้รับประทานของอร่อย และลองไปชิมอาหารรสเลิศที่ขึ้นชื่อของจังหวัดนางาซากิแห่งนี้กันบ้าง ซึ่งในครั้งนี้เราได้รวบรวมเมนูเด็ดมาฝากคุณกันไว้ที่นี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากอยากทราบกันแล้วว่าจะมีอะไรน่าสนใจและมีความพิเศษมากน้อยเพียงใด ต้องอย่ารอช้าเราไปชมพร้อมๆกันได้เลยดังนี้ 1.ราดหน้าเส้นอุด้ง นางาซากิชัมปอง (長崎ちゃんぽん) สำหรับเมนูแรกที่เราจะพาคุณไปลองชิมกันก็คือ ราดหน้าเส้นอุด้ง นางาซากิชัมปอง (長崎ちゃんぽん) สำหรับเมนูนี้ก็คือราดหน้าจัมปงในสไตล์นางาซากิ ซึ่งได้มีต้นกำเนิดมาจากร้านเจ้าของอาหารจีนเมื่อช่วงปีพศ. 1900 โดยการนำรูปมาดัดแปลงให้เป็นเนื้อครีม และทำน้ำซุปให้มีความเข้มข้นซึ่งคล้ายกับน้ำซุปราดหน้าในบ้านเรา จากนั้นก็ได้นำเส้นก๋วยเตี๋ยวที่คล้ายกับเส้นใหญ่มาจากวางไว้ในน้ำซุป ตามด้วยท็อปปิ้งต่างๆอย่างเช่นอาหารทะเลและเนื้อสัตว์ประจำท้องถิ่นมาประกอบเข้าด้วยกันในชามนี้ หน้าตาของเมนูเด็ดจานนี้ก็จะประมาณภาพด้านบนที่เรานำมาฝาก ซึ่งตามสไตล์ของนางาซากิว่าจะเป็นจัมปงที่มีท็อปปิ้งค่อนข้างอลังการซึ่งประกอบไปด้วยกุ้ง หอย ปู ปลา เห็ดหูหนู ผักประจำท้องถิ่นที่ปลูกตามฤดูกาล มีรสชาติที่กลมกล่อมทำน้ำซุปและอร่อยไปกับท็อปปิ้งต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นเมนูขึ้นชื่อและนิยมรับประทานกันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวการได้รับประทานเมนูจัมปงร้อนๆก็ยิ่งจะช่วยทำให้การเดินทางของเราฟินกันแบบสุดๆกันไปเลย 2. หมูสามชั้นตุ๋นพะโล้หรือคาคุนิ และอีกหนึ่งเมนูที่เราอยากให้คุณลองชิมกันก็คือ หมูสามชั้นตุ๋นพะโล้หรือคาคุนิ สำหรับเมนูเด็ดจานนี้มีส่วนประกอบหลักคือเนื้อหมูสามชั้นที่นำมาตุ๋นอย่างพิถีพิถัน จากนั้นก็จะปรุงรสด้วยน้ำซอสที่เป็นสูตรเฉพาะของเมืองนางาซากิ หน้าตาของเมนูจานนี้ก็จะเหมือนกับภาพด้านบน ซึ่งคุณสามารถรับประทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆหรือนำมารับประทานคู่กับเต้นก็ได้ ส่วนใหญ่แล้วมักจะรับประทานคู่กับ “คาคุนิมัง” ซึ่งมีลักษณะเป็นแป้งมันจูที่สอดไส้หมูตุ๋นคล้ายกับซาลาเปา มีความนุ่มเมื่อได้เคี้ยวและเข้ากับหมูตุ๋นได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าเป็นเมนูเด็ดที่หาใครมาจังหวัดนี้ก็จะต้องถามถึง และหากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่ชื่นชอบการรับประทานหมูตุ๋นแล้วก็ขอบอกเลยว่าไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง 3. โกะโตอุด้ง […]
6 อาหารท้องถิ่นรสเลิศ ที่ขึ้นชื่อในจังหวัดยามากุจิ ที่ต้องไม่ควรพลาดชิม !

ได้เดินทางท่องเที่ยวกันอย่างจุใจเป็นแล้วสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดยามากุจิจากบทความในครั้งก่อน และเป็นที่รู้กันดีว่ากองทัพย่อมเดินด้วยท้อง ในครั้งนี้เราจึงจะมาพูดถึงเรื่องของอาหารการกินกันบ้าง ซึ่งเราจะพาคุณไปรู้จักกับ 6 อาหารท้องถิ่นรสเลิศ ที่ขึ้นชื่อในจังหวัดยามากุจิ ที่ต้องไม่ควรพลาดชิม ! ที่เราได้รวบรวมเมนูจานเด็ดที่เป็นอาหารประจำท้องถิ่นของจังหวัดแห่งนี้มาฝากคุณกันในครั้งนี้ หากอยากทราบกันแล้วว่าแต่ละเมนูจะมีหน้าตาน่ารับประทานกันขนาดไหน และรสชาติจะถูกปากกันหรือไม่นั้นต้องอย่ารอช้าเราไปชมพร้อมกันได้เลยดังนี้ 1.อิวาคุนิซูชิ (岩国寿司) สำหรับเมนูแรกที่เราจะพาคุณไปลองชิมกันก็คือ อิวาคุนิซูชิ (岩国寿司) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอาหารจานเด็ดประจำท้องถิ่นของเมืองอิวาคุนิ ที่หากใครได้มาถึงก็จะต้องถามหาและได้ชิม อาหารชนิดนี้เรียกได้ว่าเป็นซูชิในสไตล์โบราณมีลักษณะเป็นซูชิแบบกดมีหน้าตาและสีสันสดใสน่ารับประทาน มีการทำซ้อนกันเป็นชั้นๆ ซึ่งเข้านั้นก็สมัครด้วยน้ำส้มสายชูคล้ายกับการทำข้าวปั้นหรือซูชิ ส่วนปลาก็จะหมักด้วยน้ำส้มสายชูเช่นกัน แต่จะโรยหน้าด้วยไข่เจียวหั่นฝอยและเห็ดชิตาเกะ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเป็นเอกลักษณ์ในสไตล์ยามากุจิที่อยากจะมีใครเหมือน สำหรับหน้าตาก็จะประมาณภาพด้านบนที่เรานำมาฝากกัน ซึ่งคุณสามารถหาทานได้ตามร้านขายอาหารในเมืองอิวาคุนิหรือบางร้านในจังหวัดยามากุจิได้เลยเพราะเรียกได้ว่าเป็นอาหารขึ้นชื่อของย่านนี้ 2.คาวาระโซบะ (瓦そば) สำหรับเมนูต่อไปที่เราจะพาคุณไปลองชิมกันก็คือ คาวาระโซบะ (瓦そば) ซึ่งเป็นโซบะท้องถิ่นในสไตล์ยามากุจิหรือเรียกได้ว่าเป็นโซบะแบบกระเบื้องนั่นเอง มีต้นกำเนิดมาจากออนเซ็น ที่อยู่ในเมืองชิโมโนเซกิ มีเรื่องเล่าสำหรับอาหารการนี้กันอย่างมากมาย ซึ่งมีแรงบันดาลใจมาจากการที่ทหารปรุงอาหารด้วยการนำกระเบื้องมุงหลังคามาใช้ซึ่งตอนนั้นอยู่ในช่วงภาวะสงครามของศตวรรษที่ 19 จากนั้นเมนูจานนี้ก็กลายเป็นได้รับความนิยมและแพร่กระจายไปหลายภูมิภาค เส้นที่นำมาใช้ในการผัดก็คือเส้นโซบะผสมกับผงชาต่างๆของท้องถิ่นและใช้เนื้อวัวเป็นส่วนประกอบหลักในการนำมาผัดจากนั้นก็จะนำไข่เจียวหั่นฝอยมาโรยหน้าทางด้านบนก่อนเสิร์ฟซึ่งคุณสามารถหารับประทานเมนูนี้ได้ในเมืองชิโมโนเซกิหรือในตัวเมืองของจังหวัดยามากุจิก็ได้ สำหรับราคาก็จะอยู่ที่ประมาณ 1000 เยนต่อ 1 จานแต่เป็นการที่ค่อนข้างใหญ่เรียกได้ว่าอิ่มจุใจกันเลยทีเดียวหากอยากทราบว่ารสชาติจะอร่อยและฟินขนาดไหนต้องอย่าลืมมาลองชิมด้วยตัวเองเมื่อมีโอกาสนะคะ 3.ปลาปักเป้า (ふぐ) และอีกหนึ่งเมนูที่หาคุณได้มายืนจังหวัดยามากุจิแล้วจะต้องไม่ควรพลาดก็คือ ปลาปักเป้า (ふぐ) เนื่องจากจังหวัดยามากุจินั้นได้มีการซื้อขายปลาปักเป้ามากกว่า 70% ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการค้าขายปลาปักเป้าขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นจึงทำให้ผู้คนที่นี่นิยมรับประทานปลาปักเป้ากันเป็นเรื่องปกติ ซึ่งมีทั้งปลาปักเป้าที่เลี้ยงและมีปลาปักเป้าที่กลับมาจะธรรมชาติ ซึ่งปลาปักเป้านั้นได้เป็นอาหารขึ้นชื่อของผู้คนเมืองชิโมโนเซกิ […]
5 สุดยอดเมนูรสเลิศขึ้นชื่อ ของเมืองคาโกชิม่า ที่หากไปเยือนแล้วจะพลาดไม่ได้ !

หลังจากที่ได้พาคุณท่องเที่ยวไปกลับจังหวัดคาโกชิม่ากันไปพอสมควรแล้วบทความครั้งก่อน สำหรับครั้งนี้เราจึงจะพาคุณมารู้จักในเรื่องของอาหารการกินกันบ้าง ซึ่งในครั้งนี้พวกเราทีมงานได้รวบรวม 5 สุดยอดเมนูรสเลิศขึ้นชื่อ ของเมืองคาโกชิม่า ที่หากไปเยือนแล้วจะพลาดไม่ได้ ! มาฝากคุณกันไว้ที่นี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับเมืองอุดมสมบูรณ์แห่งนี้ เรื่องของอาหารการกินก็ย่อมอุดมสมบูรณ์ตามไปด้วย จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงจะพาคุณไปรู้จักกับเมนูท้องถิ่นของที่นี่ และหากคุณอยากทราบกันแล้วว่าเมนูเด็ดของที่นี่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร และจะมีรสชาติอร่อยถูกปากกันหรือไม่ต้องอย่ารอช้าเราไปชมพร้อมๆกันได้เลยดังนี้ 1.ชาบูชาบูหมูคุโรบูตะ (Kurobuta Shabu Shabu) สำหรับเมนูแรกที่เราจะพาคุณไปรู้จักกันเลยต้อง ชาบูชาบูหมูคุโรบูตะ (Kurobuta Shabu Shabu) เป็นเมนูชาบูโดยใช้หมูคุณภาพดีที่ถูกคัดมาแบบพิเศษนำมาใช้เป็นส่วนประกอบหลัก และสำหรับน้ำซุปนั้นก็มีความเข้มข้นและมีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดคาโกชิม่าอย่างชัดเจน พร้อมทั้งผักที่นำมาเป็นส่วนประกอบในเมนูนี้ก็จะต้องเป็นผักสดที่ปลูกเองตามฤดูกาล เรียกได้ว่าเป็นเมนูเด็ดของที่นี่ที่หากใครได้มาแล้วก็จะต้องถามถึงเป็นอันดับแรกๆ 2. เนื้อวัวดำคาโกชิม่า (Kagoshima Kuroushi) สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานเนื้อวัวเป็นพิเศษต้องไม่ควรพลาดกับเมนูนี้ เนื้อวัวดำคาโกชิม่า (Kagoshima Kuroushi) โดยปกติแล้วหากใครได้มาเยือนเมืองคาโกชิม่าก็มักจะต้องทำหาเนื้อวัวดำคาโกชิม่า ซึ่งพวกเขาทั้งหลายจะได้ชิมกันในหลากหลายเมนูไม่ว่าจะเป็นเมนูปิ้งย่างเมนูชาบูหรือเมนูผัดต่างๆ สำหรับเอกลักษณ์ของเนื้อวัวสายพันธุ์นี้ก็คือริ้วลายที่มีความงดงามราวกับงานฝีมืออีกทั้งยังมีรสชาติที่อร่อยเนื้อนุ่มแตกต่างจากเนื้อวากิวของที่อื่นอีกทั้งยังถูกเลี้ยงมาเป็นอย่างดี เพื่อให้ได้บัวที่มีคุณภาพดีที่สุดส่วนใหญ่แล้วเมนูที่ผู้คนมักนิยมรับประทานกันก็คือเมนูปิ้งย่างและเมนูสเต็ก และต้องขอบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูที่คนรักการรับประทานเนื้อต้องไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง 3. คาโกชิม่าราเมน (Kagoshima Ramen) เราจะพาคุณมาต่อกันกับอีกหนึ่งเมนูที่มีชื่อว่า คาโกชิม่าราเมน (Kagoshima Ramen) หรือเรียกง่ายๆว่าราเมนสบายคาโกชิม่านั่นเอง สำหรับจังหวัดคาโกชิม่านั้นส่วนใหญ่แล้วการทำราเมงของพวกเขาจะนำกระดูกหมูหรือทงคัตสึมาทำน้ำซุปจึงทำให้น้ำซุปของพวกเขามีหวานหอมและมีความความกลมกล่อมอร่อย บวกกับเส้นราเมงที่มีความตรงอันเป็นข้อแตกต่างจากราเมนของที่อื่น เรียกได้ว่ามีความเป็นเอกลักษณ์ในสไตล์คาโกชิม่าอย่างชัดเจน และสำหรับช้อปปิ้งที่นำมาทำในเมนูจานนี้ก็มีถั่วงอกและหมูชาชูสูตรพิเศษ ที่เรียกว่าดีไม่แพ้ที่อื่นรักคุณได้มีโอกาสมาเยือนต้องอย่าลืมรับประทานวิตามินของเมืองคาโกชิม่าแล้วจะบอกว่าฟินแน่นอน 4. […]